รีเซต

TEGHราคายางขาขึ้น น้ำมันปาล์มโอกาสโต

TEGHราคายางขาขึ้น น้ำมันปาล์มโอกาสโต
ทันหุ้น
7 ตุลาคม 2565 ( 06:51 )
64
TEGHราคายางขาขึ้น น้ำมันปาล์มโอกาสโต

#TEGH #ทันหุ้น – TEGH รับอานิสงส์ราคายางขาขึ้น ดีมานด์เติบโต ตั้งเป้าปริมาณขายปีนี้ที่ 2.2-2.4 แสนตัน พร้อมเดินหน้าธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบชี้โอกาสเติบโตสูง คาด 3-5 ปี มีรายได้มากกว่า 3 พันล้านบาท เล็งต่อยอดทำไบโอออยล์ ไบโอเจ็ท ส่วนธุรกิจบริหารจัดการกากอินทรีย์ ซุ่มเจรจาลูกค้าหลายราย ตั้งเป้า 5 ปี รายได้แตะ 500 ล้านบาท จ่อร่วมมือพันธมิตรลุยโรงไฟฟ้าขยะจากกากอุตสาหกรรม

 

นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า บริษัทคงแผน 5 ปีรายได้โตเท่าตัวที่ระดับ 2.2 หมื่นล้านบาท จากทั้งธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ 2.ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 3. ธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์

 

ทั้งนี้ในส่วนของธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ คาดว่าปีนี้จะทำยอดขายได้ 2.2-2.4 แสนตัน โดยจะต้องติดตาม นโยบายประเทศจีนในเรื่องของ Zero Covid ซึ่งหากมีการผ่อนคลายมากขึ้นจะทำให้ได้ดีมานด์กลับมา เนื่องจากจีนนับเป็นผู้บริโภคยางรายใหญ่ โอกาสผลักดันราคายางกลับมาระดับ 50-80 บาทต่อกิโลกรัม จากปัจจุบันราคายางแท่งกลับอยู่ที่ระดับ 40-60 บาทต่อกิโลกรัม

 

นอกจากนี้ยังจะเน้นผลิตเป็น Premium Quality ซึ่งแตกต่างจากยางแท่งทั่วไป และที่สำคัญสินค้าของกลุ่มบริษัทถือเป็น Sustainable Material ที่ผลิตมาจากวัตถุดิบที่ได้รับมาตรฐานความยั่งยืน ผลิตด้วยกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป็นสินค้าที่ปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ และสามารถตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบได้ ส่วนการขยายกำลังการผลิตยางแท่งเป็นประมาณ 420,000 ตันต่อปีในปี 2566 จากปีนี้ที่กำลังการผลิตอยู่ที่ 240,000 ตันต่อปี

 

*ธุรกิจน้ำมันปาล์มโต

 

ขณะที่ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ อยู่ระหว่างการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร เพื่อให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปลายปี 2566 โดยคาดว่าจะสนับสนุนขอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 7 แสนตัน ในปี 2566 จากปัจจุบันที่  4-5 แสนตัน และอยู่ระหว่างการเจรากับพันธมิตรSime Darby Oils Singapore Limited (ไซม์ ดาร์บี้้ ) เพื่อจะต่อยอดดธุรกิจรวมกัน

 

ทั้งนี้ในระยะ 3-5 ปี จะสร้างรายได้มากกว่า 3 พันล้านบาท จากปัจจุบันที่ราว 2 พันล้านบาท โดยมองว่าธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบมีดีมานด์เติบโตต่อเนื่อง หลังภาครัฐมีการส่งเสริมการใช้ B7 ทั้งนี้บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในส่วนของธุรกิจน้ำมันปาล์มในภาคตะวันออกราว 45% บริษัทจะเน้นการขยายในภาคตะวันออกมากขึ้น

 

*เล็งต่อยอดธุรกิจ

 

อย่างไรก็ดีปาล์มน้ำมันสามารถพัฒนาต่อยอดไปทำไบโอออยล์ ไบโอเจ็ท เป็นต้น ขณะนี้อยู่ในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนการลงทุนในปี 2566 เพราะจะนับเป็นโครงการที่มีคาร์บอนต่ำ เพื่อสนับสนุนการลดการปล่อยคาร์บอนต่อไป และเพิ่มมูลค่าเพิ่มของสินค้าด้วย

 

ส่วนธุรกิจด้านพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ อยู่ระหว่างการขยายการรับกำจัดกากอินทรีย์ คาดว่าไตรมาส 4/2565 จะเริ่มรับวัตถุดิบเข้าระบบได้ และจะสามารถรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4/2565 นี้ ทั้งนี้กากอินทรีย์ ในประเทศไทย ปัจจุบันมีปริมาณสูงมาก โดยมีกากที่นำไปฝังกลบอยู่หลักล้านตัน ซึ่งปัจจุบันก็มีการเจรจากับหลายบริษัทหรือผู้ที่ก่อกำเนิดกากอินทรีย์ อาทิ โรงงานแปรรูปอาหารสัตว์  โรงงานแปรรูปสัตว์ รวมไปถึงสินค้าเกษตรเป็นต้น ซึ่งในหลายบริษัทต้องการให้บริษัทเข้าไปดูแลทั้งระบบเพื่อเป็นให้ขยะเหลือศูนย์ (Zero Waste) และยังต่อยอดที่จะสามารถลดคาร์บอนได้ด้วย โดยคาดว่าภายในสิ้นปี จะสามารถรับกำจัดกากขยะได้ 400 ตันต่อวัน ราคาอยู่เฉลี่ยอยู่ที่ 350-500 บาทต่อตัน ซึ่งจะเข้ามาเป็นรายได้สุทธิให้แก่บริษัทโดยตรง โดยความสามารถในการรับกำจัดขยะของบริษัทจะอยู่ที่ 700 ตันต่อวัน (รวมเฟสใหม่ที่จะขยาย)

 

*จำกัดกากอินทรีย์ดีมานด์สูง

 

ทั้งนี้ในเฟสแรกจะอยู่ที่ 300-400 ตัน ส่วนเฟสที่ถึงที่จะเพิ่มเป็น 700 ตัน คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนมิถุนายน 2566 นอกจากนี้ไตรมาส 1/2566 จะเริ่มการเปิดใช้งานโครงการก๊าซชีวภาพ (Biogas) โดยไตรมาส 2/2566 จะมีรายได้จากการจำหน่ายก๊าซชีวภาพเข้ามา ปัจุบันมีการเจรจากับลูกค้ากว่า 3 ราย เป็นโรงงานที่ใช้น้ำมันเตา หรือใช้ LNG และมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้ไบโอแก๊ส

 

อย่างไรก็ดีคาดว่าภายในระยะเวลา 5 ปี รายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทนจะทำได้จะเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท จากปัจจุบันที่ประมาณ 100 ล้านบาท พร้อมกันนี้ในอนาคตก็อยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมในการเข้าไปดำเนินการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะจากกากอุตสาหกรรม ซึ่งจะเข้าไปร่วมมือกับพันธมิตร ที่จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัท เพราะบริษัทมีความพร้อมในเรื่องพื้นที่ ที่จะรองรับการขยายโครงการได้ 2 โครงการ ในขยาย VSPP ไม่เกิน 20 เมกะวัตต์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง