รีเซต

ยาดอง: มรดกภูมิปัญญาไทย หรือเครื่องดื่มอันตราย? เจาะลึกทุกมิติ ตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน

ยาดอง: มรดกภูมิปัญญาไทย หรือเครื่องดื่มอันตราย? เจาะลึกทุกมิติ ตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน
TNN ช่อง16
27 สิงหาคม 2567 ( 10:43 )
22
ยาดอง: มรดกภูมิปัญญาไทย หรือเครื่องดื่มอันตราย? เจาะลึกทุกมิติ ตั้งแต่อดีตสู่ปัจจุบัน

ยาดอง: สุดยอดภูมิปัญญาไทย หรือภัยร้ายแอบแฝง?


ยาดอง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ท้องถิ่นของไทยที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ผ่านการคิดค้นมาอย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่น ด้วยกรรมวิธีการนำเอาสมุนไพรนานาชนิดมาหมักดองในสุรา ทำให้ได้น้ำยาที่อุดมไปด้วยสารสกัดสำคัญจากพืชสมุนไพร ซึ่งมีสรรพคุณช่วยแก้ปวดเมื่อย บำรุงกำลัง บำรุงโลหิต เพิ่มพลังทางเพศ ยาดองจึงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมาอย่างยาวนาน


อย่างไรก็ตาม พลังของยาดองก็เปรียบได้กับดาบสองคม ที่นอกจากจะให้คุณประโยชน์แล้ว หากใช้ในทางที่ผิดหรือมากเกินพอดี ก็อาจนำโทษมหันต์มาสู่ผู้บริโภคได้เช่นกัน ในช่วงหลังมานี้มีข่าวเกี่ยวกับยาดองเถื่อนที่ผลิตอย่างไม่ได้มาตรฐาน ปลอมปนสารพิษอันตราย จนทำให้ผู้บริโภคล้มหมอนอนเสื่อ บาดเจ็บ พิการ หรือเสียชีวิต จนเกิดเป็นคำถามถึงความปลอดภัยของการบริโภคยาดองในปัจจุบัน


บทความนี้จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับยาดองแบบ 360 องศา ย้อนไปตั้งแต่จุดกำเนิดที่มาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน กระทั่งวิวัฒนาการมาสู่เครื่องดื่มยอดฮิตที่ใครๆ ก็หลงใหล เปิดเผยทั้งด้านที่เป็นประโยชน์และโทษที่แฝงอยู่ ตลอดจนสถานการณ์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายและการควบคุมกำกับ เพื่อมอบภาพรวมที่ชัดเจนว่ายาดองไม่ได้เป็นเพียงเครื่องดื่มธรรมดา แต่มีคุณูปการอย่างใหญ่หลวงในฐานะมรดกภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมายาวนาน แต่ขณะเดียวกันก็อาจส่งผลเสียร้ายแรงหากใช้อย่างผิดวิธี ผู้อ่านจะได้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการบริโภคยาดองนั้นจะได้ประโยชน์เหนือโทษได้อย่างไร ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนไป


ย้อนรอยอดีต ที่มาของยาดองจากภูมิปัญญาชาวบ้าน


ยาดองมีประวัติศาสตร์อันยาวนานควบคู่กับวิถีชีวิตของผู้คนในแผ่นดินไทย ชาวบ้านได้ใช้ความรู้ความเข้าใจที่สั่งสมมาจากประสบการณ์ ผนวกกับวัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น คิดค้นสูตรยาดองขึ้นมาเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค บำรุงร่างกาย และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศสำหรับชาย แรกเริ่มเดิมทีเป็นการนำเอาสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามาหมักดองในสุรา เพื่อสกัดสารออกฤทธิ์ให้ละลายเข้าสู่น้ำยา เมื่อดื่มเข้าไปก็จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดียิ่งขึ้น ยาดองจึงมักใช้ในการแก้ปวดเมื่อยหลังการทำงานหนัก บรรเทาอาการอ่อนเพลีย บำรุงโลหิต ฟื้นฟูกำลัง หรือใช้เป็นยาอายุวัฒนะที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง


ตำรายาดองที่เรียกได้ว่าเป็นสูตรเด็ดขั้นเทพของหมอพื้นบ้าน หลายต้องถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นภายในครอบครัวหรือสำนักหมอ ตัวอย่างยาดองที่มีชื่อเสียงก็เช่น ยาดองเห็ดหลินจือ ใช้เห็ดหลินจือมาแช่ในเหล้าสามารถเสริมภูมิคุ้มกันและบำรุงร่างกาย ยาดองกระชายดำที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มคุณผู้ชาย เชื่อกันว่าช่วยเพิ่มความแข็งแรงแกร่งทางเพศ ยาดองแก้ปวดเมื่อยที่ใช้ขมิ้นชัน ไพล มาดองผสมกัน ช่วยคลายกล้ามเนื้อบรรเทาอาการปวด เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของตำรับยาดองโบราณมากมายที่คิดค้นโดยหมอพื้นบ้านจากภูมิปัญญาชาวบ้านและใช้กันมายาวนานในอดีต


ยาดองยุคใหม่ เพื่อให้ถูกจริตคนรุ่นใหม่


ต่อมาเมื่อกาลเวลาผ่านไป ยาดองก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนและพัฒนาไปตามยุคสมัย ในปัจจุบันยาดองมีให้เลือกมากมายหลายสูตร ทั้งแบบดั้งเดิมที่เน้นสมุนไพรล้วนๆ ไปจนถึงสูตรใหม่ที่ปรับใช้วัตถุดิบหลากหลายขึ้น เพื่อเอาใจนักดื่มรุ่นใหม่ที่ชอบความแปลกแหวกแนว เกิดเป็นความคิดสร้างสรรค์สูตรเด็ดจากร้านยาดองต่างๆ


แม้การดัดแปลงสูตรยาดองจะทำให้ดื่มง่าย รสชาติถูกปากขึ้น แต่ก็ต้องระวังว่าหากใช้วัตถุดิบไม่ได้คุณภาพ อาจลดทอนประสิทธิผลของสมุนไพรที่เป็นยาลง และอาจเพิ่มอันตรายจากสารปนเปื้อนหรือสารพิษเจือปนที่ไม่พึงประสงค์ได้ ที่สำคัญที่สุดคือต้องซื้อหายาดองจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ มีใบอนุญาตถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภค


กฎหมายควบคุมยาดอง ยึดหลักปกป้องผู้บริโภค


แม้ยาดองจะเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมที่สืบทอดกันมายาวนาน แต่เมื่อกลายมาเป็นสินค้าเชิงพาณิชย์ที่ผลิตและจำหน่ายอย่างแพร่หลาย การควบคุมด้วยกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่างๆ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อปกป้องความปลอดภัยของผู้บริโภค 


กฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับยาดองได้แก่ พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดให้ผู้ที่จะผลิตสุรา ซึ่งรวมถึงยาดองด้วย ต้องได้รับใบอนุญาตจากกรมสรรพสามิตก่อน โดยสถานที่ผลิตต้องได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด นอกจากนี้ยังมีกฎกระทรวงและประกาศกรมสรรพสามิตอีกหลายฉบับที่วางหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการเสียภาษี การติดแสตมป์และการทำบัญชี เพื่อควบคุมให้การผลิตและจำหน่ายเป็นไปอย่างถูกต้อง


ในด้านคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ยาดอง ผู้ผลิตมีหน้าที่ต้องขออนุญาตสถานที่ผลิตและผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการผลิตได้มาตรฐาน ใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ฉลากยาดองจะต้องระบุข้อมูลสำคัญอย่างชัดเจน ได้แก่ ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิต ส่วนประกอบ ปริมาณแอลกอฮอล์ วันที่ผลิต และคำเตือนบนฉลากตามที่กฎหมายกำหนด


ส่วนในการจำหน่ายยาดองนั้น ผู้ประกอบการจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดต่างๆ ในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ได้แก่ ห้ามขายให้แก่ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ ห้ามขายในสถานที่ราชการ สถานศึกษา หรือศาสนสถาน และห้ามขายในช่วงเวลาตั้งแต่ 24.00 น. ถึง 11.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยมีบทลงโทษทั้งโทษปรับและโทษจำคุกสำหรับผู้ที่ฝ่าฝืน


อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติ การบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาดองยังคงมีข้อท้าทายอยู่มาก โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทห่างไกลที่การกำกับดูแลเข้าไปไม่ถึง ยังมีการลักลอบผลิตและจำหน่ายยาดองที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างแพร่หลาย ก่อให้เกิดผลเสียทั้งต่อเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพของประชาชน ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้องหาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมาย เช่น การลงพื้นที่ตรวจสอบ การสุ่มเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์มาวิเคราะห์ การทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการรายย่อย หรือการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังในระดับชุมชน เป็นต้น เพื่อให้การควบคุมยาดองสามารถทำได้อย่างทั่วถึงและเกิดผลในทางปฏิบัติมากขึ้น จึงจะทำให้กฎหมายบรรลุเจตนารมณ์ที่แท้จริงในการคุ้มครองผู้บริโภคจากอันตรายที่จะเกิดขึ้น


ผลกระทบต่อสุขภาพ จากการดื่มยาดองไม่เหมาะสม


การดื่มยาดองมากเกินขนาดหรือใช้ผิดวิธี ย่อมส่งผลกระทบเสียต่อสุขภาพมากมาย ทั้งแอลกอฮอล์ที่มีปริมาณสูงในยาดอง รวมทั้งตัวยาสมุนไพรเองหากใช้ในขนาดมากเกินไปโดยไม่เหมาะสม ก็อาจก่อให้เกิดพิษได้ ตั้งแต่อาการเมาค้าง คลื่นไส้อาเจียน ไปจนถึงเสี่ยงต่อการสลบ หมดสติ หรือเสียชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายที่ดื่มยาดองเถื่อนที่ปลอมปนสารพิษอย่างเมทานอล ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความเป็นพิษสูง ทำให้เกิดอาการตาพร่ามัว ตาบอด หากได้รับปริมาณมากอาจทำให้เสียชีวิตได้


นอกจากนี้ การดื่มยาดองอย่างสม่ำเสมอติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับแข็ง มะเร็งตับ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และโรคทางเดินอาหาร เป็นต้น ดังนั้นแม้ยาดองจะดูดีมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ควรดื่มมากเกินความจำเป็น ไม่เช่นนั้นโทษที่ได้อาจมากกว่าคุณ จึงต้องใช้วิจารณญาณในการเลือกดื่มอย่างเหมาะสม


ยาดอง ในมุมมองแห่งการวิจัยและพัฒนา


ในเชิงวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ยาดองเป็นแหล่งความรู้ที่น่าสนใจในการค้นคว้าวิจัย มีการศึกษาวิเคราะห์ถึงสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรแต่ละชนิด วิธีการสกัดที่เหมาะสม ปฏิกิริยาและผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาดองสมัยใหม่ที่มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงขึ้น


นอกจากการปรับปรุงสูตรตำรับยาดองแล้ว นวัตกรรมอีกด้านที่ก้าวหน้าไปมากคือการนำเอาสารสกัดสมุนไพรจากยาดองมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพหรือความงามในรูปแบบอื่นๆ เช่น ยาแคปซูลสมุนไพรสกัด เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือผลิตภัณฑ์เวชสำอาง เป็นต้น การต่อยอดเชิงพาณิชย์เช่นนี้นอกจากจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับภูมิปัญญาท้องถิ่นแล้ว ยังเป็นการนำความรู้แขนงต่างๆ มาบูรณาการเข้าด้วยกัน ก่อให้เกิดองค์ความรู้และวัฒนธรรมการบริโภคยาดองรูปแบบใหม่ๆ


แต่สิ่งที่ต้องย้ำเตือนคือ การวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาดองใหม่ๆ เหล่านี้ จะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพเป็นอันดับแรก มีข้อมูลเชิงประจักษ์ที่ได้จากการศึกษาอย่างเป็นระบบรองรับ ไม่สร้างกระแสความเชื่อที่ผิดๆ จนผู้บริโภคหลงผิดได้ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งผู้ประกอบการ นักวิชาการ สื่อมวลชน และหน่วยงานควบคุมกำกับ ที่จะต้องร่วมกันคิดและทำอย่างรอบด้าน


บทบาทภาครัฐ สร้างกฎเกณฑ์ที่ลงตัว


หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่สำคัญในการกำหนดนโยบายและแนวทางการกำกับดูแลอุตสาหกรรมยาดองในภาพรวม เพื่อให้เกิดความสมดุลในหลากหลายมิติ ได้แก่ 


1) การอนุรักษ์ยาดองในฐานะภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีคุณค่า เช่น การรวบรวมข้อมูลตำรับยาดองดั้งเดิม การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หรือการสนับสนุนการวิจัยเพื่อต่อยอดพัฒนา 


2) การควบคุมมาตรฐานในการผลิตและการจำหน่าย ด้วยการออกกฎหมายและระเบียบว่าด้วยการผลิตยาดองที่ได้คุณภาพ ปลอดภัย มีระบบการตรวจสอบและติดตามให้เป็นไปตามกฎอย่างเข้มงวด 


3) การคุ้มครองผู้บริโภคและสร้างความตระหนักรู้ ด้วยการให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่ประชาชนเกี่ยวกับคุณและโทษของยาดอง วิธีการเลือกซื้อ เลือกดื่มยาดองอย่างถูกวิธีปลอดภัย ตลอดจนเฝ้าระวังการโฆษณาชวนเชื่อหรือการบิดเบือนข้อมูลของผู้ประกอบการที่ไม่สุจริต


4) การส่งเสริมผู้ประกอบการ ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและขยายตลาด ทั้งภายในประเทศและการส่งออก โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการที่ทำตามกฎเกณฑ์ มีมาตรฐานคุณภาพสูง และคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม


ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการทำงานแบบองค์รวมของหลายหน่วยงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กลไกทุกด้านขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน จนก่อเกิดผลลัพธ์อันพึงประสงค์ในระยะยาว


------------------


โดยสรุปแล้ว ยาดองแสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งระหว่างคุณค่าทางภูมิปัญญากับกฎหมายที่บังคับใช้ในปัจจุบัน ถึงแม้ในอดีตยาดองจะเคยเป็นสมบัติล้ำค่าของภูมิปัญญาไทยที่ช่วยรักษาอาการเจ็บป่วย บำรุงร่างกาย และเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตมาอย่างยาวนาน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป กฎหมายและระเบียบสังคมที่เปลี่ยนแปลง ทำให้การผลิตและจำหน่ายยาดองกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะทำเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม


ภายใต้ พ.ร.บ.สรรพสามิต ฉบับปัจจุบัน ยาดองจัดเป็นสุราชนิดหนึ่งเช่นเดียวกับเหล้า ซึ่งการผลิตและขายโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือว่ามีความผิดและมีโทษตามกฎหมาย นอกจากนี้ยาดองส่วนใหญ่มักมีแอลกอฮอล์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว ทำให้ไม่สามารถขออนุญาตผลิตได้ตามปกติอยู่ดี แม้จะมีการผลิตและจำหน่ายกันอย่างแพร่หลายในท้องถิ่น แต่ในทางกฎหมายก็ยังคงเป็นสิ่งผิดอยู่นั่นเอง


ในปัจจุบัน เราจึงพบเห็นความพยายามของภาครัฐในการปราบปรามและควบคุมการผลิตและขายยาดองเถื่อน เพราะนอกจากจะขัดต่อกฎหมายแล้ว ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้บริโภคจากกรรมวิธีการผลิตที่ไม่ได้มาตรฐาน และการเลี่ยงภาษีของผู้ผลิต ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กฎหมายมีความจำเป็นเพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้คนและการจัดเก็บภาษีเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ





ภาพ Getty Images 

อ้างอิง สำนักงานอาหารและยา 
สถาบันการแพทย์แผนไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง