รีเซต

โคราชคลัสเตอร์ยังพุ่ง ระบาดเพิ่มชุมชนข้างเคียง เร่งตรวจเชิงรุก 4,000 คน

โคราชคลัสเตอร์ยังพุ่ง ระบาดเพิ่มชุมชนข้างเคียง เร่งตรวจเชิงรุก 4,000 คน
ข่าวสด
3 กันยายน 2564 ( 11:09 )
58

คลัสเตอร์ชุมชนทุ่งสว่าง – ท้าวสุระซอย 3 ติดเชื้อสะสม 46 รายแล้ว เทศบาลนครโคราช เร่งตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงที่เหลือให้ครอบคลุม

 

 

วันที่ 3 ก.ย. 64 นายไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ รองนายกเทศมนตรีนครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด ของชุมชนในเขตเทศบาลนครราชสีมา ยังพบการแพร่ระบาดจากคลัสเตอร์ทุ่งสว่าง-ท้าวสุระ ซอย 3 และชุมชนข้างเคียงอยู่ เนื่องจากบ้านเรือนอยู่ติดกัน ทำให้เชื้อแพร่ได้ง่าย ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด 6 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนศาลเจ้าพ่อเสือ-ทุ่งสว่าง ,ชุมชนวัดทุ่งสว่าง ,ชุมชนวัดศาลาลอย ,ชุมชนทุ่งสว่าง-ศาลาลอย ,ชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 และชุมชนศาลาลอยพัฒนา

 

 

ทางสาธารณสุขเทศบาลนครฯ เร่งดำเนินการสกัดควบคุมเชื้อไม่ให้แพร่ระบาดออกไปวงกว้างมากขึ้นแล้ว โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมในคลัสเตอร์ทุ่งสว่าง-ท้าวสุระ ซอย 3 อยู่ที่ 46 ราย ซึ่งทีมสอบสวนโรค ลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยชุดตรวจ ATK แยกผู้ที่มีผลเป็นบวกออกมาเพื่อกักตัว และส่งตรวจหาเชื้อซ้ำ PCR เพื่อยืนยันผล

 

 

ทั้งนี้ การตรวจเชิงรุกประชากรกว่า 4,000 คนใน 6 ชุมชน ดำเนินการไป 400-500 ราย ซึ่งในจำนวนนี้ มี 396 เคส หรือประมาณ 10 % ที่เสี่ยงสูงสัมผัสใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ และเมื่อนำผู้ที่มีผลตรวจ ATK เป็นบวกไปตรวจ PCR ซ้ำประมาณ 50-60 ราย พบว่าติดเชื้อสะสมอยู่ที่ 46 ราย ซึ่งการตรวจเชิงรุกด้วย ATK ยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งหมดใน 6 ชุมชน

 

 

ดังนั้น จำเป็นจะต้องขยายผลตรวจเชิงรุกกลุ่มเสี่ยงที่เหลือโดยเร็ว ให้ครอบคลุมทั้งพื้นที่ที่เป็นชุมชนเปราะบางดังกล่าว เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่ จะประกอบอาชีพรับจ้าง จึงเสี่ยงเกิดการระบาดเพิ่มเติมได้ง่าย โดยเฉพาะชุมชนทุ่งสว่าง ในจุดที่เรียกกันว่า “บ้านโดนอีแซว” ซึ่งพบการระบาดจำนวนมาก ทางเทศบาลนครฯ จัดชุด อป.พร.ควบคุมพื้นที่ทั้งหัวซอยและท้ายซอยแล้ว กักตัวกลุ่มเสี่ยงซึ่งมีอยู่ 37 ครัวเรือน ประมาณ 118 ราย ไม่ให้ออกจากพื้นที่

 

 

เพราะผลเป็นบวกติดโควิดถึง 44 ราย ส่วนอีก 2 ราย อยู่ในเขตชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 และมี 20 ราย ที่กักตัวในชุมชน หลังละ 1 ราย กับอีก 17 รายที่ส่งไปกักตัวใน State Quarantine ของเทศบาลนครฯ ที่โรงแรมฟอร์จูน ซึ่งปัจจุบันเหลือกักตัวอยู่ 9 ราย ส่วนที่เหลืออีก 43 ราย สอบสวนโรคแล้วพบว่า ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยง จึงสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 

 

แต่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด D-M-H-T อย่างเคร่งครัด ทั้งการเว้นระยะห่างระหว่างกัน สวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ล้างมือบ่อย ๆ และตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย รวมทั้ง หลีกเลี่ยงไม่ไปสถานที่แออัด ป้องกันตนเอง และการ์ดต้องไม่ตก ซึ่งคาดว่า จะสามารถช่วยสกัดการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์นี้ไม่ให้ระบาดซ้ำซ้อนได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง