JRโปรเจ็กต์ประมูลพรึบ ลุ้นงานใหม่800ล้าน

#JR #ทันหุ้น - JR เข้าโหมดเทิร์นอะราวด์ งานจ่อประมูลเพียบ ล่าสุดยื่นแล้วรอผล 700-800 ล้านบาท ลั่นมีโอกาสสูงได้งาน ดันแบ็กล็อกเพิ่ม จากปัจจุบันมี 7-8 พันล้านบาท มั่นผลดำเนินงานไตรมาส Q3/2568 แจ่ม เหตุมีแบ็กล็อกรอรับรู้สูง-บริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลงานในไตรมาส 3/2568 น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2/2568 เนื่องจาก บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ที่รอรับรู้รายได้สูงขึ้น และมีโอกาสได้รับงานโครงการใหม่เข้าเสริม นอกเหนือ จากการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
@ลุ้นซิวงานล็อตใหม่
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมี Backlog อยู่ที่ประมาณ 7,000- 8,000 ล้านบาท จากโครงการต่างๆ อาทิ โครงการ Supply and Installation of Electrical Package โครงการ SB- PYOI Solar Power Plant, สัญญาซื้อขายคอมพิวเตอร์ และติดตั้งระบบสื่อสารโครงข่ายสำหรับการควบคุมระบบไฟฟ้า กับการไฟฟ้านครหลวง ฯลฯ ซึ่งน่าจะสามารถทยอยดำเนินการส่งมอบและรับรู้รายได้ต่อเนื่องไปอีก 3 ปีนับจากนี้
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างการรอผลโครงการที่ยื่นประกวดราคาไปแล้วทั้งเอกชนและหน่วยงานราชการต่างๆ คิดเป็นมูลค่าโครงการราว 700-800 ล้านบาท โดยบริษัทคาดหวังว่าจะได้รับการคัดเลือกมากที่สุด เพื่อเสริมรายรับในอนาคตให้ดียิ่งขึ้น
@เดินต่อยอดรับทรัพย์
นายจรัญ กล่าวว่า กลยุทธ์การดำเนินงานธุรกิจของบริษัทในครึ่งหลัง 2568 ยังคงให้ความสำคัญกับธุรกิจ Oil & Gas ที่ทีมงานของบริษัทมีความเชี่ยวชาญ ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง และคู่แข่งในตลาดมีน้อย มาร์จิ้นยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงงานที่เป็นประเภท Green Energy เพื่อสร้างรายได้ให้เติบโตมั่นคงในระยะยาว
นอกจากนี้ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการขยายการลงทุนภาครัฐ-เอกชน ส่งผลเชิงบวกต่อ JR ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการงานด้านระบบไฟฟ้า และ ICT ที่สอดรับกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคดิจิทัล และบริษัทฯ มีความพร้อมเข้าร่วมประมูลงานใหม่เพื่อเสริมสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจและรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป
@ล็อกต้นทุน
ส่วนของราคาทองแดงในตลาดโลกนั้น บริษัทประเมินว่าไม่น่าจะมีผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจาก ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับทางซัพพลายเออร์เพื่อล็อกราคาไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้การบริหารจัดการโครงการในมือต่างๆ สามารถทำได้เป็นอย่างดี
สำหรับในแง่ประเด็นเกี่ยวกับแรงงานกัมพูชาในประเทศขาดแคลน หลังช่วงที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้มีการปิดด่านชายแดน และผลักดันแรงงานในส่วนดังกล่าวกลับประเทศนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อบริษัท เพราะพนักงานของบริษัทเป็นคนไทยเป็นหลัก ประกอบกับมีการว่าจ้างซับคอนแทรกต์ (Subcontract)บางส่วนเพื่อบริหารจัดการ ดังนั้นจึงไม่มีกระทบต่อทาง JR แต่อย่างใด
@งบครึ่งหลังดีต่อ
นายจรัญ กล่าวเสริมว่า ภาพรวมธุรกิจของ JR ถือว่าดีขี้นต่อเนื่อง และน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/2568 และพลิกกลับฟื้นตัว ซึ่งสะท้อนได้จากภาพรวมงบการเงินได้ในไตรมาส 2/2568 ที่พลิกกลับมาดีขึ้น และคงน่าจะได้เห็นภาพรวมธุรกิจหลังจากนี้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยงบการเงินสิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ 22.04 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2568 ที่ขาดทุนราว 998,000 บาท เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ผลการดำเนินงานของบริษัทเติบโตต่อเนื่อง ผลมาจากกลยุทธ์มุ่งเน้นการรับงานโครงการประเภท Quick Win เป็นตัวเร่งการรับรู้รายได้ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
