NERรับเต็มภาษีจีน0% อินเดียยอดทะลักปีหน้า

#NER #ทันหุ้น – NER รับอานิงสงส์เต็ม จีนเปิดรับยางจากไทยด้วยอัตราภาษี 0% แล้ว หนุนทั้งอุตสาหกรรมได้ประโยชน์ ส่วนแผนบุกขายยางเข้าอินเดียมีลูกค้าในมือแล้วหวังปีหน้าออเดอร์ทะลัก พร้อมมองภาพปลายปีนี้ราคายางส่อดีขึ้น เป้าปริมาณขายปี 2568 คาด 4.7 แสนตัน ฟากโบรกชี้เป็นยอดหุ้นกลุ่มยาง เป้าราคาพื้นฐาน 6.20 บาท

                นายชูวิทย์  จึงธนสมบูรณ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า จากกรณีประเทศไทยประสบผลสำเร็จในการเจรจากับรัฐบาลจีนในการยกเว้นภาษีนำเข้ายางพาราธรรมชาติจากไทย (ครอบคลุมพิกัดศุลกากร HS Code 4001, 4002) ที่ขนส่งผ่านช่องทางแม่น้ำโขง จากเดิมต้องเสียอัตรา 20% กลายเป็นระดับ 0% โดยนำร่องชุดแรกตั้งแต่เดือนกันยายนนี้นั้น ถือเป็นผลดีอย่างมากต่อทั้งอุตสาหกรรมยางของประเทศไทยและรวมถึง NER ซึ่งมีส่งออกยางไปยังประเทศจีนอยู่แล้ว

                 การลดภาษีย่อมเอื้่อโอกาสการซื้อขายยางกับจีน เพราะราคายางของไทยที่เข้าสู่ประเทศจีนจะมีราคาถูกลง ส่งผลให้ผู้ประกอบการไทยน่าสามารถขายยางในจีนได้มากขึ้น โดย NER ปัจจุบัน NER มียอดขายยางไปยังจีนอยู่ที่ประมาณ 60-70% แต่หากจำแนกเฉพาะส่วนที่บริษัทส่งออกตรงไปยังจีนเองจะอยู่ที่ราว 30% ของยอดขายรวม และน่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นในอนาคต

*รุกอินเดียต่อเนื่อง

                สำหรับแผนแผนการขยายตลาดไปยังอินเดียนั้น NER ยังคงดำเนินการอย่างเต็มที่ และขณะนี้มีลูกค้ารายใหม่ในอินเดียแล้ว 3 ราย และยังเดินหน้าหาลูกค้าที่มีศักยภาพเพิ่มเติม โดยตลาดอินเดียมีความน่าสนใจเนื่องจากมีความต้องการยางพาราเพื่อผลิตล้อรถในปริมาณมาก การที่บริษัทสามารถขยายฐานเข้ามาได้ก็จะเป็นปัจจัยในระยะยาว ขณะที่ได้รับผลกระทบจากประเด็นภาษีของสหรัฐ น้อยกว่าจีนมาก และที่ผ่านมาบริษัทเริ่มส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าใหม่ในอินเดียบ้างแล้ว ซึ่งคาดหวังในปี 2569 ปริมาณการขายเข้าตลาดอินเดียจะมากขึ้นในระดับที่มีนัยได้

                ส่วนการที่ค่าเงินบาทแข็งเมื่อเทียบกับสหรัฐอเมริกา จะไม่เป็นผลกระทบมากนักเพราะบริษัทมีการบริหารจัดการตรวจสอบค่าเงินอย่างสม่ำเสมอประสานกับสถาบันการเงินอย่างใกล้ชิดเพื่อให้กำหนดขายสินค้าได้ในอัตราค่าเงินที่เหมาะสมที่สุด 

*ราคายางแนวโน้มดีขึ้น

                บริษัทยังคาดการณ์ว่าราคายางในประเทศไทยจะดีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ และจะทำให้อุตสาหกรรมยางพาราของประเทศไทยคึกคักมากขึ้น ส่วนปัญหาการประท้วงถึงขั้นจราจลในอินโดนีเซียซึ่งเป็น 1 ในผู้มีบทบาทในตลาดยางระดับโลกนั้น น่าจะกระทบเฉพาะกับภายในประเทศอินโดนีเซียแง่ระบบโลจิสติกส์หรือระบบการจัดการยางภายในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ไม่น่าจะทำให้ซัพพลายยางหายไปจากตลาดโลก

                อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงเป้าหมายปริมาณการขายปี 2568 เท่ากับ 470,000 ตัน ส่วนเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ราว 32,500 ล้านบาท

*เคาะพื้นฐาน 6.20 บาท

                 บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองเป็นกลาง จากกรณีไทยได้ส่งออกยางพาราล็อตแรกจำนวน 400 ตัน ไปจีน หลังจีนยกเว้นภาษีนำเข้ายางพาราจากไทย 0% ช่องทางแม่น้ำโขง โดยเชิงพื้นฐานการส่งออกยางผ่านทางแม่น้ำโขงยังไม่ได้เป็นช่องทางหลักในการนำเข้ายางพาราของจีน และปกติจีนจะนำเข้ายางพาราในรูป Mixture ที่เป็นยางผสมซึ่งไม่ได้มีภาษีนำเข้าอยู่แล้ว เป็น Sentiment บวกต่อหุ้นกลุ่มยาง อาทิ STA, NER และ TEGH ทั้งนี้ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐาน NER เท่ากับ 6.20 บาท