คลังชี้เก็บภาษีทองไม่แก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง

#ทันหุ้น คลังชี้เก็บภาษีทองไม่แก้ปัญหาค่าเงินบาทแข็ง ระบุ การค้าทองคำมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับยอดการส่งออกสินค้าทั้งหมด ขณะที่ แรงกดดันค่าเงินบาทแข็งมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์เป็นส่วนใหญ่

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า การเก็บภาษีทองคำ อาจจะไม่ได้ช่วยทำให้ค่าบาทอ่อนค่าลง โดยการค้าทองคำ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายได้ของประเทศที่ได้รับเป็นดอลลาร์สหรัฐ แต่ในภาพรวมรายได้จากการส่งออกของประเทศมีมูลค่าสูงกว่ารายได้ที่ได้รับจากการส่งออกทองคำมาก ดังนั้น การแก้ปัญหาโดยการขึ้นภาษีจึงไม่ได้ผล

ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนหรือกกร.ได้แสดงความคิดเห็น ในกรณีที่มีการส่งออกทองคำจากไทยไปกัมพูชาสูงมากในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 7 หมื่นล้านบาท ซึ่งกังวลว่าจะส่งผลต่อค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดย กกร.ต้องการให้ภาครัฐ เข้าไปตรวจสอบ

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สาเหตุที่มีคนกัมพูชามีความต้องการทองคำที่สูงขึ้น เนื่องจากมาจากความไม่มั่นใจต่อค่าเงินของกัมพูชา และเศรษฐกิจกัมพูชา จึงหันมาลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง คือ ทองคำ

ทั้งนี้ ข้อเสนอให้เก็บภาษีการขายทองคำ เพื่อลดแรงกดดันต่อค่าบาทนั้น มาจากการที่เมื่อมีการขายทองคำออกไปนอกประเทศ แล้ว ผู้ส่งออกได้เงินดอลลาร์กลับเข้ามาในประเทศ เมื่อนำดอลลาร์มาแลกเป็นบาท ทำให้ Demand บาทมีสูงขึ้น อาจทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ดังนั้น จึงมีข้อเสนอให้เก็บภาษีการขายทองคำ เมื่อมีรายได้เป็นดอลลาร์แล้วนำมาแลกเป็นบาท

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการเก็บภาษีการค้าทองคำ เห็นว่า แรงกดดันค่าเงินบาท ไม่ได้มาจากการขายทองคำ เพราะเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น แต่แรงกดดันต่อค่าบาทที่สำคัญ มาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง