เทพไท รับใครๆก็หาว่าเพี้ยน ชอบใส่รองเท้า 2 สี ปลื้มใจชัชชาติ ทำคนยอมรับสไตล์นี้

ข่าววันนี้ 24 พฤษภาคม นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟสบุ๊ก ว่า “ผมเป็นคนชอบใส่รองเท้า 2 สี และใส่ลงพื้นที่เป็นประจำ เพราะเห็นว่า เป็นสไตล์การแต่งตัวที่ไม่จำเจ มีอะไรแปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ สิ่งสำคัญก็คือผมเป็นนักการเมือง ตอนเป็นส.ส.มีโอกาสร่วมกิจกรรมกับชาวบ้านในหลายรูปแบบ ตอนเข้าวัดร่วมงานบุญ ไม่ว่าจะเป็นงานกฐิน ผ้าป่า งานบวช เมื่อจะเข้าโบสถ์หรือศาลาวัด ก็ต้องถอดรองเท้าไว้หน้าประตู มีหลักประกันชัดเจนว่า รองเท้าตนจะไม่หาย เพราะไม่สามารถหาคู่อีกข้างเจอ จึงไม่ใครขโมยหรือใส่ผิดกลับไป

ผมได้ใส่รองเท้าในลักษณะเช่นนี้แบบนี้เป็นประจำ ตอนลงพื้นที่หาเสียง ก็ถูกคู่แข่งโจมตีว่า เป็นคนผิดปกติบ้าง คนบ้าบ้าง เพี้ยนบ้าง แต่ผมก็ยืนหยัดจนเป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ค้าในตลาดเปิดท้าย ตลาดสด จะเห็นเป็นเอกลักษณ์ใส่รองเท้า 2 สีของผม ถือว่าเป็นของแท้ ตัวจริงไม่ใช่ตัวปลอม เมื่อก่อนผมมีเพื่อนใส่รองเท้า 2 สีอยู่คนหนึ่ง คือคุณกนก รัตน์วงศ์สกุล ช่วงมีการชุมนุม กปปส.ก็จะเห็นคุณกนกใส่รองเท้า 2 สีอยู่บ่อยครั้ง แต่ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว เพราะไม่ค่อยเห็นคุณกนก ใส่รองเท้า 2 สี เหมือนเมื่อก่อน

แต่สำหรับผมยังยืนยันใช้สไตล์การแต่งตัวแบบนี้ต่อไป เพราะยังมีรองเท้า 2 สี ในสต๊อกอยู่ประมาณ 60 คู่ กว่าจะสวมใส่จนหมด ก็ใช้เวลานานพอสมควร แต่เมื่อคุณกนก เลิกใส่รองเท้า 2 สี เป็นเพื่อนผมไปแล้ว ผมยังมีคนใส่รองเท้า 2 สี เป็นเพื่อนผมคนใหม่อีกคนหนึ่ง คือคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ได้เห็นจากคุณชัชชาติ ใส่รองเท้าผ้าใบ 2 สี วิ่งออกกำลังกาย แสดงว่าเป็นคนมีรสนิยมการใส่รองเท้า 2 สี เหมือนกัน เราเป็นเพื่อนกันในฐานะคนใส่รองเท้า 2 สี ถ้าใครจะว่าผมบ้า ผมก็ไม่ได้บ้าคนเดียวแล้ว เพราะคนระดับผู้ว่าฯกทม.ก็มาบ้ากับผมด้วย”นายเทพไท ระบุ

นายเทพไท ระบุว่า ตอนนี้รู้สึกดีใจที่สไตล์การแต่งตัวของผม เป็นที่ยอมรับมากขึ้น จนถึงขั้นที่มีบริษัทผลิตรองเท้าหลายยี่ห้อ ได้ผลิตรองเท้าข้างละสี ออกจำหน่ายแล้ว ซึ่งต่อไปก็ไม่จำเป็นต้องซื้อรองเท้าสองคู่มาสลับข้างกัน เพราะซื้อมาคู่เดียวก็ได้รองเท้าข้างละสี ตามความต้องการ ประหยัดค่าใช้จ่ายในยามเศรษฐกิจฝืดเคีองเช่นนี้ ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 56 ปี ของคุณชัชชาติ ผมขออวยพรให้มีความสุขในการทำงานรับใช้คนกรุงเทพฯ และมีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคในการบริหารงาน กทม. ผลักดัน 200 นโยบายให้ประสบผลสำเร็จ และขอให้คะแนนเสียง 1,486,215 คะแนน เป็นของขวัญวันเกิดชิ้นสำคัญ จากประชาชนคนกรุงเทพฯ มามอบให้ในวันนี้