‘พิพัฒน์’ ลุยขอขยายนั่งดื่มแอลกอฮอล์ได้ 5 ทุ่มถีงเที่ยงคืน โดยเฉพาะพื้นที่สีฟ้านำร่องท่องเที่ยว

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ภายหลังการหารือร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงแนวทางการขยายเวลานั่งดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และขยายเวลาขายได้ถึงเวลา 23.00-24.00 น. โดยเฉพาะในพื้นที่สีฟ้า (บลูโซน) ซึ่งเป็นพื้นที่ในจังหวัดท่องเที่ยวนำร่อง 19 จังหวัดทั่วประเทศ จากเดิมที่นั่งดื่มได้ถึง 21.00 น. และมีเวลางดจำหน่ายระหว่างวัน ตั้งแต่ 14.00-17.00 น. ซึ่งตรงนี้ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีเวลางดเว้นในการขายด้วย เพราะหากนักดื่มต้องการดื่มต่อจริงๆ ก็สามารถซื้อตุนไว้ก่อนได้ ทำให้ต้องหารือร่วมกับภาคสาธารณสุข ว่าจะสาสารถผ่อนคลายได้อย่างไรบ้าง โดยหากสามารถนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทันจะเสนอทันที รวมถึงขณะนี้การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จาก 63 ประเทศที่กำหนดภายใต้รูปแบบเทสแอนด์โก หรือตรวจหาเชื้อ หากไม่พบสามารถเที่ยวได้ทันที เดิมกำหนดให้ตรวจหาเชื้อผ่านวิธี RT-PCR ก่อนวันที่ 26 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผ่อนคลายให้ใช้การตรวจผ่านเอทีเคแทน ซึ่งกำหนดเริ่มตั้งแต่วันที่16 ธันวาคม 2564 แต่ตอนนี้จำเป็นต้องทบทวนอีกครั้ง หลังจากมีการระบาดโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอน เพื่อให้มีความปลอดภัยทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยเอง
“เราคาดหวังว่าการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะลดลงเหลือหลักพัน และทยอยปรับลงอย่างต่อเนื่องได้ เพราะจำนวนการติดเชื้อในประเทศเกี่ยวเนื่องกับการเปิดประเทศและการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ แต่เมื่อมีการระบาดไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอไมครอนขึ้น เชื่อว่าไม่ได้มีเฉพาะประเทศไทยเท่านั้นที่มีความกังวลแต่ประเทศที่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมีความกังวลเหมือนกันหมด เนื่องจากยังไม่ทราบว่าสุดท้ายเชื้อไวรัสนี้จะมีความรุนแรงมากน้อยขนาดไหน โดยนายกฯ มีความห่วงใยและอยากให้การเปิดประเทศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สามารถเปิดได้ต่อไป ไม่มีการหยุดชะงักลงอีก” นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากขอความร่วมมือจากภาคเอกชนคือ หากมีผู้ประกอบการหรือภาคเอกชนต้องการให้แรงงานของตัวเองเข้ารับการฉีดวัคซีน สามารถรวบรวมรายชื่อ และส่งข้อมูลเข้ามา โดยกระทรวงจะประสานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อจัดหาวัคซีนเตรียมฉีดตามจำนวนที่เสนอขอเข้ามา โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดสามารถรวบรวมรายชื่อและส่งให้คณะกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัด (ก.ท.จ.) เพื่อจัดหาวัคซีนตามจำนวนที่ชัดเจน รวมถึงอาจสามารถให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขลงพื้นที่เข้าไปฉีดวัคซีนให้ในแต่ละอำเภอได้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการมากที่สุด รวมถึงความสำคัญคือหากผู้ประกอบการรายใดมีพนักงานที่เป็นแรงงานต่างด้าวแบบถูกกฎหมาย สามารถพาเข้ารับวัคซีนได้ทันที แต่ในกรณีที่เป็นแรงงานยังไม่ขึ้นทะเบียนกับภาครัฐ หรือแรงงานแบบผิดกฎหมาย จะสามารถพาเข้ารับวัคซีนได้หรือไม่นั้น เบื้องต้นตรงนี้ขอหารือร่วมกับกระทรวงแรงงานก่อนว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ มีขั้นตอนดำเนินการอย่างไร เพราะหากผู้ประกอบการจะยืนยันว่า แม้แรงงานต่างด้าวยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน แต่เข้ามาทำงานนานแล้ว ไม่ได้เพิ่งลักลอบเข้ามา ซึ่งตรงนี้คงต้องหาหลักฐานยืนยันว่าเข้ามานานแล้วจริงๆ เพื่อไม่ให้เข้าข่ายการค้ามนุษย์ที่มีโทษรุนแรงด้วย เพื่อให้ทุกคนได้รับวัคซีนมากที่สุด โดยอยากให้เอกชนรวมรายชื่อส่งเข้ามาเร็วที่สุด เพื่อเร่งฉีดวัคซีน ซึ่งตรงนี้ตัวเองไม่ได้อย่างเร่งรัดมากนัก แต่รัฐบาลก็เร่งมาอีกทอดเหมือนกัน
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สำหรับปัจจัยที่ภาคเอกชนเสนอเข้ามา ได้แก่ การเปิดเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่ยังมีข้อจำกัดอยู่การส่งเสริมพื้นที่การค้าชายแดน การขอชุดตรวจเอทีเคจากรัฐบาล หรือการตั้งจุดตรวจเอทีเคให้กับแรงงานในภาคบริการ อาทิ พนักงานขับรถโดยสารไม่ประจำทาง พนักงานขับเรือ โดยส่วนนี้กระทรวงจะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม รวมถึงหารือกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการค้าชายแดนระหว่างกันด้วย
ทั้งนี้ พื้นที่สีฟ้า (นำร่องการท่องเที่ยว) แบบทั้งจังหวัด มี 7 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กระบี่ กาญจนบุรี นนทบุรีปทุมธานี พังงา และภูเก็ต
พื้นที่สีฟ้า แบบเปิดเป็นบางส่วน เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งสถานที่นำร่องท่องเที่ยว มีทั้งหมด 19 จังหวัด ได้แก่
พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง)
ขอนแก่น : อ.เมือง เขาสวนกวาง อุบลรัตน์ ภูเวียง เวียงเก่า พล เปือยน้อย
จันทบุรี : อ.เมือง ท่าใหม่
เชียงราย : อ.เมือง แม่จัน แม่สาย เทิง พาน เวียงป่าเป้า แม่สรวย แม่ฟ้าหลวง เชียงแสน เวียงแก่น เชียงของ
เชียงใหม่ : อ.เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า จอมทอง
ตราด : เกาะช้าง เกาะกูด
นครราชสีมา : อ.เมือง ปากช่อง วังน้ำเขียว สีคิ้ว พิมาย เฉลิมพระเกียรติ โชคชัย
ประจวบคีรีขันธ์ : หัวหิน หนองแก
อยุธยา : พระนครศรีอยุธยา
ระยอง : เกาะเสม็ด
สุราษฎร์ธานี : เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า
พื้นที่ควบคุม (สีส้ม)
ชลบุรี : พัทยา บางละมุง นาจอมเทียน บางเสหร่ เกาะสีชัง ศรีราชา
เพชรบุรี : ชะอำ
ระนอง : เกาะพยาม
สมุทรปราการ : สนามบินสุวรรณภูมิ
อุดรธานี : อ.เมือง นายูง หนองหาน ประจักษ์ศิลปาคม กุมภวาปี บ้านดุง
พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง)
บุรีรัมย์ : อ.เมือง
เลย : เชียงคาน
สุรินทร์ : อ.เมือง ท่าคูน
หนองคาย : อ.เมือง ศรีเชียงใหม่ ท่าบ่อ สังคม