'นิวเซาท์เวลส์' คลายข้อจำกัดคุมโควิด-19 แม้พบติดเชื้อกลายพันธุ์เพิ่ม

ซิดนีย์, 17 มี.ค. (ซินหัว) -- นครซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) ของออสเตรเลีย ผ่อนปรนข้อจำกัดควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)ในวันพุธ (17 มี.ค.) แม้ตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ สายพันธุ์บี117 (B117) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระบาดแบบกลุ่มก้อนในโรงแรมกักตัวแห่งหนึ่งของท้องถิ่น

กลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุว่ามีการตวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 รายที่ 3 ในโรงแรมกักตัวของนครซิดนีย์ และดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่มีผลตรวจโรคเป็นบวกในสัปดาห์ก่อน

"ข้ามคืนที่ผ่านมาเราพบผู้ป่วยรายใหม่ในชั้น 11 ของโรงแรมกักตัว ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและนักเดินทางชาวต่างชาติ ผู้เป็นต้นตอการระบาดรอบนี้" เบเรจิกเลียนกล่าว

ผู้ป่วยใหม่รายนี้คาดว่าติดเชื้อไวรัสฯ ชนิดกลายพันธุ์ที่โรงแรมข้างต้น จึงถูกจัดเป็นการติดเชื้อในท้องถิ่น และเป็นผู้ป่วยติดเชื้อในท้องถิ่นรายที่ 2 ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ในรอบมากกว่า 50 วัน

อย่างไรก็ดี เนื่องจากผู้ป่วยรายดังกล่าวอยู่ระหว่างกักตัวอยู่แล้ว ทำให้เกิดความเสี่ยงต่ำ รัฐนิวเซาท์เวลส์จึงดำเนินแผนการผ่อนปรนข้อจำกัดที่บังคับใช้กับสถานประกอบการในร่ม ผับ และคลับ

"ผู้ป่วยทุกรายถือเป็นเรื่องน่ากังวล แต่ผู้ป่วยรายนี้อยู่ระหว่างกักตัวอยู่แล้ว จึงไม่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรในซิดนีย์" เบเรจิกเลียนกล่าว "เราจะเดินหน้าผ่อนปรนข้อจำกัดในซิดนีย์ต่อไป ขณะเดียวกันขอความร่วมมือประชาชนระมัดระวังตนอยู่เสมอ"

กฎระเบียบใหม่นี้ระบุว่าลูกค้าสามารถยืนขณะดื่มเครื่องดื่มที่สถานประกอบการได้ แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่ถูกกำหนดให้นั่งใช้บริการอย่างเดียว

จอห์น บาริลลาโร รองมุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่ากฎระเบียบใหม่จะช่วยให้การเฉลิมฉลองวันเซนต์แพทริกที่กำลังจะมีขึ้นในนครซิดนีย์ ใกล้เคียงปกติมากขึ้น หลังจากผับและคลับได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยเขาหวังว่าการผ่อนปรนข้อจำกัดรอบนี้จะช่วยให้เจ้าของกิจการทำรายได้มากขึ้น