GFPTผลิตเพิ่ม2.9แสน รับซาอุจัดหนักนำเข้าไก่
#GFPT #ทันหุ้น– GFPT รับซาอุดีอาระเบียขยายไลน์นำเข้าไก่ไทยมาสู่แปรรูป ปรุงสุก ส่งผลดีต่อบริษัท ชูโรงเชือดไก่-ปรุงสุกกำลังผลิต 2.9 แสนตัวต่อวันเสร็จกลางปี 2566 รองรับดีมานด์ได้มาก ทั้งจีน ซาอุดีอาระเบีย, สหภาพยุโรป และอังกฤษ มั่นใจผลงานทั้งปี 2565 เติบโตแกร่ง ด้านนักวิเคราะห์ชู Top Pick กลุ่มสินค้าเกษตร คาดกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง 2 ปี เป้า 19 บาท
นายวีระ ธิตยางกรุวงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เปิดเผยว่า การที่องค์การอาหารและยาซาอุดีอาระเบีย (SFDA) หรือ อย.ซาอุดีอาระเบีย ได้แก้ไขข้อมูลบนเว็บไซต์ อนุญาตให้โรงงานไก่ไทย 11 โรงงานที่ได้รับใบอนุญาติ สามารถจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไก่ได้หลากหลายขึ้น อาทิ ไก่แปรรูป, ไก่ปรุงสุก และจำหน่ายได้ทุกประเภทชิ้นส่วนเข้าประเทศซาอุดีอาระเบียได้อย่างครบถ้วน ทุกด่านทั่วประเทศ จากเดิมที่อนุญาตให้จำหน่ายได้เฉพาะผลิตภัณฑ์เนื้อไก่สดแช่แข็งเท่านั้น นับเป็นโอกาสที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมไก่ไทยในอนาคต
ทั้งนี้บริษัทได้รับใบอนุญาติให้ส่งสินค้าไก่ไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างประสานงาน เตรียมความพร้อมด้านเอกสาร และขั้นตอนการทำธุรกิจ เนื่องจากต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักศาสนาประจำประเทศ
@ กำลังผลิตใหม่เข้ากลางปี 2566
นายวีระ กล่าวด้วยว่า การที่บริษัทอยู่ระหว่างลงทุนขยายโรงเชือดไก่แห่งใหม่ในจังหวัดชลบุรี กำลังการผลิต 2.9 แสนตัวต่อวัน เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 2566 พร้อมกันนี้ บริษัทได้ใช้งบประมาณ 1 – 1.2 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุกแปรรูป เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในจีน, ซาอุดีอาระเบีย, ทวีปยุโรป อีกทั้งบริษัทยังมุ่งขยายฐานการตลาดเข้าไปในประเทศอังกฤษ หลังจากแยกตัวออกมาจากสหภาพยุโรปอีกด้วย
สำหรับภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัททั้งปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับปี 2564 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วงครึ่งหลังของปี 2565 (2H/65) ที่มีปัจจัยหนุนทั้งไตรมาส 3/2565 ซึ่งเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจส่งออก และช่วงต้นไตรมาส 4/2565 ที่ผู้ประกอบการจะสั่งสินค้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับจำหน่ายช่วงเทศกาล และช่วงวันหยุดยาว เช่นเดียวกับภาพรวมอุตสาหกรรมในประเทศ ที่สามารถจำหน่ายชิ้นส่วนไก่, ลูกไก่, ได้ในราคาเฉลี่ยที่สูงกว่าทั้งปี 2564 ที่ผ่านมา ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบอาหารเลี้ยงสัตว์เริ่มทยอยปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่งวดไตรมาส 4/2565 ถือเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมยอดขาย และกำไรขั้นต้นทั้งปี 2565 ของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ
“ภาพรวมตลาดในประเทศปีนี้บริษัทสามารถจำหน่ายชิ้นส่วนไก่ได้เกือบทุกส่วนรวมถึงโครงไก่ และเครื่องใน แทบไม่มีผลิตภัณฑ์ส่วนใดที่ไม่สามารถจำหน่ายได้เลย สำหรับตลาดต่างประเทศทั้งยุโรป และญี่ปุ่นซึ่งเป็นตลาดหลัก บริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้าต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ถึงช่วงครึ่งแรกของเดือนพฤศจิกายน โดยการที่บริษัทพิจารณาให้ส่วนลดกับคู่ค้าสำคัญในญี่ปุ่น ส่งผลให้บริษัทยังมีคำสั่งซื้อจากตลาดญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง”
ชู Top Pick เป้า 19 บาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่าจากประเด็นข่าว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า องค์การอาหารและยาซาอุดีอาระเบีย (SFDA) หรือ อย.ซาอุดีอาระเบีย ได้อนุญาตให้โรงงานไก่ไทย 11 โรงงาน สามารถส่งออกไก่สด ไก่แปรรูป ไก่ปรุงสุก เข้าประเทศซาอุดีอาระเบียได้อย่างครบถ้วน ทุกด่านทั่วประเทศ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 นั้น ถือเป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมส่งออกไก่สดและไก่แปรรูปของไทยในการเปิดตลาดส่งออกแหล่งใหม่ และมองว่าคำสั่งซื้อจะเริ่มทยอยเข้ามาและเห็นผลชัดเจนในช่วงปี 2566 เป็นต้นไป จึงยังคงมุมมองน้ำหนักการลงทุนกลุ่มเกษตรไว้ที่ “เท่าตลาด” และเลือก GFPT เป็น Top Pick พร้อมปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2565 ขึ้นเป็น 1,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 711% และเพิ่มขึ้น 5.35% แตะ 1,787 ล้านบาท ในปี 2566 นอกจากนี้ยังจะได้รับปัจจัยหนุนจาก 1.แนวโน้มราคาขายที่จะยืนระดับสูงตลอดทั้งปี 2.ราคาต้นทุนวัตถุดิบที่เริ่มปรับลง และ 3.ส่วนแบ่งกำไรจาก GFN และ Mckey ที่ดีขึ้น จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมที่ 19 บาท