รีเซต

เปิดตัว "iPhone Air" บางเฉียบ ควงคู่ Apple Watch Ultra 3

เปิดตัว "iPhone Air" บางเฉียบ ควงคู่ Apple Watch Ultra 3
TNN ช่อง16
10 กันยายน 2568 ( 14:56 )
9

ผ่านไปเรียบร้อยสำหรับ Apple Event กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ประจำปี ภายใต้ชื่อ "Awe-Dropping" มีจุดเด่นสำคัญอยู่ที่การเปิดตัว iPhone 17 Series ที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด และอุปกรณ์เสริมรุ่นล่าสุดที่ตอบโจทย์ทั้งการทำงาน สุขภาพ และไลฟ์สไตล์ 

ความน่าสนใจอยู่ที่การเปิดตัว iPhone 17 Series ได้แก่ iPhone 17, iPhone Air, iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max โดยเฉพาะรุ่น iPhone Air ที่มาพร้อมความบางเพียง 5.6 มิลลิเมตร นับเป็น iPhone ที่บางที่สุดเท่าที่แอปเปิลเคยผลิตมา ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว รองรับเทคโนโลยี ProMotion 120 Hz ทดรอยขีดข่วนมากกว่าเดิม 3 เท่า ป้องกันการแตกกว่าเดิม 4 เท่า และรุ่นนี้รองรับเฉพาะ eSIM เท่านั้น 

ด้านสมรรถนะ ขุมพลังชิป A19 Pro ที่ Apple การันตีว่าเป็นชิปที่เร็วที่สุดในวงการสมาร์ตโฟน โดย GPU ได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ เพิ่มความสามารถประมวลผล AI สูงขึ้น 3 เท่า เทียบเท่าประสิทธิภาพระดับ MacBook Pro ในร่าง iPhone มีให้เลือกด้วยกัน 4 สี Sky Blue, Black, Gold, White ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท

ขณะที่ iPhone 17 Pro มาพร้อมสีใหม่อย่าง Cosmic Orange รวมถึงสี Silver และ Deep Blue พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber มาใช้เป็นครั้งแรก ช่วยให้เครื่องสามารถรักษาระดับประสิทธิภาพสูงสุดได้ยาวนานกว่า iPhone 16 Pro ถึงร้อยละ 40 นอกจากนี้ iPhone 17 Pro ถูกเคลมว่ามาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์ iPhone ราคาเริ่มต้น 43,900 บาท

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวพร้อมกันคือ AirPods Pro 3 หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ที่ปรับปรุงทั้งคุณภาพเสียงและระบบตัดเสียงรบกวนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จุดเด่นคือฟีเจอร์ การแปลภาษาแบบเรียลไทม์ ที่ช่วยให้การสื่อสารข้ามภาษาง่ายและรวดเร็วขึ้น แต่ตอนนี้ยังไม่รองรับภาษาไทย พร้อมทั้งเพิ่มฟังก์ชันวัดสุขภาพ เช่น การวัดอัตราการเต้นหัวใจ และโหมดออกกำลังกายกว่า 50 แบบที่ทำงานร่วมกับผู้ช่วยออกกำลังกายด้วยเทคโนโลยี Apple Intelligence ขณะที่แบตฯ สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 8 ชม. กรณีเปิด ANC และ 10 ชม. ในโหมด Transparency ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 249 ดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ยังเปิดตัว Apple Watch รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่น ได้แก่ Apple Watch Series 11, Apple Watch SE 3 และ Apple Watch Ultra 3 โดย Series 11 มาพร้อมดีไซน์ที่บางลง รองรับเครือข่าย 5G และเพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพ เช่น การวัดความดันโลหิต และการตรวจสอบคุณภาพการนอน รุ่น SE 3 ได้อัปเกรดด้วยชิป S10 และเพิ่มฟังก์ชัน Always-On Display เพื่อการใช้งานที่สะดวกขึ้น ขณะที่ Ultra 3 ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง มาพร้อมหน้าจอ LTPO OLED ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีใน Apple Watch แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 42 ชั่วโมง และสูงสุดถึง 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน พร้อมฟีเจอร์ใหม่ในการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมเพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือในยามฉุกเฉิน 

งานในปีนี้สะท้อนถึงทิศทางใหม่ของแอปเปิล ที่มุ่งผสาน ดีไซน์บางเบา, สมรรถนะสูง, และเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ เข้ากับนวัตกรรมการเชื่อมต่อและประสบการณ์ผู้ใช้ โดย iPhone Air ได้รับการยกย่องว่าเป็นเครื่องหมายสำคัญของยุคใหม่แห่งการออกแบบสมาร์ตโฟน ขณะที่ Apple Watch Ultra 3 และ AirPods Pro 3 เสริมบทบาทของแอปเปิลในฐานะผู้นำด้านอุปกรณ์สวมใส่และการดูแลสุขภาพดิจิทัล 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง