รีเซต

Moderna พัฒนาวัคซีนต้านมะเร็ง ด้วยเทคโนโลยีด้าน mRNA

Moderna พัฒนาวัคซีนต้านมะเร็ง ด้วยเทคโนโลยีด้าน mRNA
TNN ช่อง16
21 กุมภาพันธ์ 2565 ( 18:31 )
150
Moderna พัฒนาวัคซีนต้านมะเร็ง ด้วยเทคโนโลยีด้าน mRNA

วัคซีน mRNA นับเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่มีบทบาทอย่างมากในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน ซึ่งนอกเหนือจากวัคซีนต้านโควิด-19 แล้ว บริษัท Moderna ยังเดินหน้าพัฒนาวัคซีนป้องกันเริม, อีสุกอีใส รวมถึงวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งด้วย !!




สิ่งสำคัญในการพัฒนาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ คือ การเลือกแอนติเจน (Antigen) ที่มีความจำเพาะและมีศักยภาพในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้สร้างแอนติบอดี (Antibody) ซึ่งระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์จะมองแอนติเจนว่าเป็นเสมือนสิ่งแปลกปลอมที่ต้องกำจัด โดยมีเม็ดเลือดขาวที่คอยจดจำและสร้างแอนติบอดีทุกครั้งที่มีเชื้อ (ซึ่งมีแอนติเจนเดียวกับที่เม็ดเลือดขาวเคยเจอ) เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้น เมื่อคุณติดเชื้อหลังจากฉีดวัคซีนไปแล้ว คุณอาจจะมีอาการป่วยที่ไม่รุนแรงหรือไม่ป่วยเลยก็เป็นได้


สารจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียส่วนใหญ่ที่นิยมใช้เป็นแอนติเจน คือ สารจำพวกโปรตีน และหากย้อนกลับไปในวิชาชีววิทยาก็จะพอทราบว่าเซลล์ในร่างกายสร้างโปรตีนขึ้นโดยอาศัยพิมพ์เขียวจาก mRNA กระบวนการสร้างนั้นจะมีการถอดรหัสบน mRNA เพื่อสร้างอนุภาคโปรตีนที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรหัสที่กำหนดไว้ ดังนั้น หากคุณต้องการสร้างโปรตีนชนิดใดก็เพียงแค่นำ mRNA ที่มีรหัสของโปรตีนชนิดนั้นใส่เข้าไปในเซลล์เพื่อทำการถอดรหัส เท่านี้ก็จะได้โปรตีนที่ต้องการแล้ว

ที่มาของภาพ Mayo Clinic

 


ด้วยหลักการนี้นักวิทยาศาสตร์จึงนำ mRNA มาสร้างวัคซีน ยกตัวอย่างจากวัคซีนโควิด-19 ที่นักวิทยาศาสตร์ไม่ต้องนำแอนติเจนจากผิวของไวรัส SARS-CoV-2 มาใช้โดยตรง เพียงแต่สังเคราะห์ mRNA ที่เป็นพิมพ์เขียวของแอนติเจนผิวของไวรัสขึ้นมา แล้วฉีดเข้าไปในร่างกายมนุษย์เพื่อให้เซลล์ในร่างกายนำ mRNA ไปสร้าง "แอนติเจนจากผิวไวรัส" ขึ้นเอง เมื่อเซลล์ในร่างกายมนุษย์ถอดรหัส mRNA และสร้างแอนติเจนออกมาเรียบร้อยแล้ว ก็จะกลายเป็นหน้าที่ของเม็ดเลือดขาวที่เข้ามาทำปฏิกิริยาในลำดับถัดไป


เพราะฉะนั้น จะเห็นได้ว่า mRNA มีประโยชน์อย่างมากในการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคหรืออาการต่าง ๆ เพราะมันสามารถสร้างพิมพ์เขียวของโปรตีนที่ต้องการได้ในเวลาอันรวดเร็ว อีกทั้งต้นทุนการผลิตยังมีราคาถูก และช่วยลดระยะเวลาในการพัฒนาวัคซีนให้เร็วขึ้นอีกด้วย นั่นจึงทำให้ Moderna นำ mRNA มาใช้ในการทำวัคซีนป้องกันเริม, อีสุกอีใส และวัคซีนป้องกันโรคมะเร็ง




เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes Simplex (HSV) โดยมีอยู่ด้วยกัน 2 ซีโรไทป์ ได้แก่ HSV-1 ก่อโรคบริเวณช่องปาก และ HSV-2 ก่อโรคบริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งไวรัสชนิดนี้จะอยู่ในร่างกายมนุษย์ไปตลอดชีวิต เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอพวกมันก็จะออกมาสร้างความเจ็บปวดให้กับบริเวณที่มีการติดเชื้อ นอกจากนี้มีงานวิจัยพบว่า HSV มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์ถึงร้อยละ 10


ถัดมาคือไวรัส Varicella-zoster (VSV) เป็นไวรัสก่อโรคอีสุกอีใส ซึ่งพวกมันสามารถฝังอยู่ตามปมประสาทของร่างกายได้ และเมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ ไวรัสเหล่านี้จะออกมาตามเส้นประสาทจนเกิดเป็น "งูสวัด" ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการปวดแสบร้อนตามตำแหน่งของเส้นประสาทได้

ที่มาของภาพ Unsplash

 


และสุดท้ายสิ่งที่ Moderna ต้องการนำเสนอมากที่สุด คือ วัคซีนป้องกันไวรัส จากข้อมูลเผยว่าบริษัทได้พัฒนา mRNA ที่เป็นพิมพ์เขียวของแอนติเจน Indoleamine 2,3-dioxygenase (IDO) และ Programmed death-ligand 1 (PD-L1) ซึ่งโมเลกุลทั้ง 2 ชนิดนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเติบโตของเซลล์มะเร็ง 


Moderna กล่าวว่าวัคซีน mRNA จะเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันรู้จักกับแอนติเจน IDO และ PD-L1 มากขึ้น จนสามารถเข้าจัดการกับเซลล์ที่มีแนวโน้มเป็นเซลล์มะเร็งได้อย่างทันท่วงที ซึ่งกำลังจะมีการนำวัคซีนป้องกันมะเร็งที่พัฒนาขึ้นมา ไปทดลองดูผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นในมะเร็งผิวหนังและมะเร็งปอดชนิด Non-small cell ระยะลุกลาม หากได้ผลลัพธ์ดีก็จะนำไปทดลองเพื่อหาผลลัพธ์ด้านการป้องกันการเกิดมะเร็งในลำดับถัดไป

ที่มาของภาพ Unsplash

 


mRNA ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจอย่างมากในการพัฒนาวัคซีนเพื่อช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ ไม่แน่ว่าในอนาคตคุณอาจจะได้เห็นวัคซีนป้องกันโรคมะเร็งที่หลากหลายมากขึ้น รวมถึงวัคซีนที่จะช่วยลดอาการภูมิแพ้จากสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ รอบตัวก็เป็นได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก New Atlas

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง