ทรัมป์เปลี่ยนใจกลับมาเสนอชื่อ "จาเร็ด ไอแซ็กแมน" นั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการ NASA

วันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับวงการอวกาศอีกครั้ง หลังประกาศเสนอชื่อ จาเร็ด ไอแซ็กแมน (Jared Isaacman) มหาเศรษฐีผู้ประกอบการเทคโนโลยี และนักบินอวกาศเอกชน ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) อีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การตัดสินใจครั้งนี้ถือเป็น “การกลับลำครั้งใหญ่” หลังทรัมป์เคยถอนชื่อไอแซ็กแมนออกจากรายชื่อผู้ถูกเสนอเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ทรัมป์โพสต์ประกาศผ่านแพลตฟอร์ม Truth Social ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียของเขาเอง โดยระบุว่า
“ความหลงใหลในอวกาศ ประสบการณ์ในฐานะนักบินอวกาศ และความมุ่งมั่นของจาเร็ดในการผลักดันขอบเขตของการสำรวจและการสร้างเศรษฐกิจอวกาศใหม่ ทำให้เขาเหมาะสมที่สุดในการนำ NASA เข้าสู่ยุคใหม่ที่กล้าหาญ”
ประวัติและผลงานของไอแซ็กแมน
ไอแซ็กแมน วัย 42 ปี เป็นผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Shift4 Payments ซึ่งให้บริการด้านระบบชำระเงินออนไลน์ แม้เขาไม่เคยทำงานใน NASA หรือรัฐบาลกลางมาก่อน แต่เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกยุคใหม่ของ “นักบินอวกาศเอกชน” ที่มีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมอวกาศเชิงพาณิชย์
เขาเคยจัดหาเงินทุนและบัญชาการ ภารกิจนักบินอวกาศเอกชนไปสู่วงโคจรโลกสองครั้ง โดยทั้งสองภารกิจใช้ยานและเทคโนโลยีของ SpaceX โดยเฉพาะภารกิจ Polaris Dawn ที่ปล่อยขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2024 ซึ่งเขาได้สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็น นักบินอวกาศเอกชนคนแรกของโลกที่ได้ออกเดินในอวกาศ (spacewalk)
เบื้องหลังการกลับลำของทรัมป์
ทรัมป์เคยเสนอชื่อไอแซ็กแมนครั้งแรกในเดือนมกราคม 2025 (บางแหล่งระบุว่าเป็นเดือนธันวาคม 2024) และเขาเกือบจะได้รับการยืนยันจากสภาคองเกรสแล้ว แต่จู่ ๆ เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ทรัมป์กลับยกเลิกการเสนอชื่อ โดยอ้างถึง “การตรวจสอบความสัมพันธ์ในอดีต”
รายงานระบุว่า สาเหตุหนึ่งมาจากความกังวลของสมาชิกพรรครีพับลิกันบางส่วน ที่พบว่าไอแซ็กแมนเคยบริจาคเงินให้กับผู้สมัครพรรคเดโมแครต และมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ซีอีโอของ SpaceX
การเสนอชื่อครั้งใหม่นี้เกิดขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากที่ มัสก์โจมตี “ฌอน ดัฟฟี” (Sean Duffy) รักษาการผู้อำนวยการ NASA และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมัสก์ไม่พอใจที่ดัฟฟีเปิดการประมูลใหม่ให้บริษัทอื่นแข่งขันกับ SpaceX ในโครงการยานลงจอดบนดวงจันทร์ โดยให้เหตุผลว่า SpaceX ล่าช้า มัสก์จึงตอบโต้บนแพลตฟอร์ม X ด้วยการเรียกดัฟฟีว่า “Sean Dummy” และกล่าวหาว่าดัฟฟีกำลัง “ฆ่า NASA”
ปฏิกิริยาของผู้เกี่ยวข้อง
ภายหลังประกาศดังกล่าว ไอแซ็กแมนได้โพสต์ข้อความขอบคุณผ่าน X โดยกล่าวว่า
“การสนับสนุนจากชุมชนอวกาศนั้นมากมายมหาศาล ผมไม่แน่ใจว่าทำไมถึงได้รับความไว้วางใจมากขนาดนี้ แต่ผมจะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ผู้คนผิดหวัง”
เขายังย้ำว่า ถึงเวลาแล้วที่มนุษยชาติจะกลับมาทำสิ่งที่กล้าหาญและยิ่งใหญ่อีกครั้งในอวกาศ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อไป
ขณะเดียวกัน ฌอน ดัฟฟี ซึ่งปัจจุบันยังคงรักษาการตำแหน่งผู้อำนวยการ NASA ได้โพสต์ข้อความแสดงความยินดีว่า
“ขอขอบคุณประธานาธิบดี @realDonaldTrump สำหรับเกียรติที่มอบหมายให้ดูแล NASA... และขอแสดงความยินดีกับ @rookisaacman ผมขออวยพรให้เขาประสบความสำเร็จสูงสุด และจะทำให้การถ่ายโอนตำแหน่งเป็นไปอย่างราบรื่น”
ดัฟฟียังเน้นว่าภารกิจหลักของ NASA คือการพามนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์ก่อนจีน เพื่อความมั่นคงและศักดิ์ศรีของชาติ
ความท้าทายครั้งใหญ่ของ NASA
แม้ไอแซ็กแมนจะได้รับการสนับสนุนอย่างกว้างขวางจากวงการอวกาศ แต่เส้นทางสู่ตำแหน่งของเขายังไม่ราบรื่น เพราะต้องผ่านการพิจารณาและยืนยันจากสภาคองเกรส ท่ามกลางปัญหาภายใน NASA ที่กำลังรุมเร้า
1. วิกฤติการปิดทำการของรัฐบาล (Government Shutdown): การยืนยันตำแหน่งอาจล่าช้า เพราะรัฐบาลสหรัฐฯ ปิดทำการบางส่วนต่อเนื่องตั้งแต่ 1 ตุลาคม
2. การลดงบประมาณและบุคลากร: NASA ถูกตัดงบกว่า 6 พันล้านดอลลาร์ (ประมาณ 24%) และลดบุคลากรลงถึง 20% รวมถึงพนักงานระดับสูงกว่า 2,000 คน ล่าสุด Jet Propulsion Laboratory (JPL) ประกาศปลดพนักงาน 550 คน หรือราว 10% ของทีม
3. การแข่งขันด้านอวกาศกับจีน: ทั้งสองประเทศต่างเร่งสร้างฐานถาวรบนดวงจันทร์ โดย NASA ตั้งเป้าส่งนักบินอวกาศลงจอดภายในปี 2027 ส่วนจีนมีแผนภายในปี 2030 ซึ่งถูกมองว่าเป็น “สมรภูมิอวกาศยุคใหม่” ที่เดิมพันด้วยทั้งเทคโนโลยีและอิทธิพลระดับโลก
การเสนอชื่อจาเร็ด ไอแซ็กแมนครั้งนี้เปรียบเสมือน “การรีสตาร์ทระบบ” หลังความขัดข้องทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แม้ข้อมูลผู้ถูกเสนอชื่อจะถูกโหลดกลับเข้ามาอีกครั้งภายใต้คำสั่งของ “ผู้ใช้หลัก” (ทรัมป์) แต่ “ระบบปฏิบัติการ” อย่างรัฐบาลและ NASA เอง ยังคงอยู่ในภาวะไม่เสถียรจากการปิดทำการและการลดงบประมาณ ซึ่งอาจทำให้การยืนยันตำแหน่งของเขายังต้องรอเวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่ภารกิจการนำพา NASA สู่ยุคใหม่จะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
