ย้อนรอยคดี "แอม ไซยาไนด์" จากจุดเริ่มต้นถึงคำพิพากษา
การคลี่คลายคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญเริ่มต้นจากเหตุการณ์วันที่ 14 เมษายน 2566 เมื่อ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ "ก้อย" อายุ 32 ปี หายตัวไปหลังไปทำบุญและปล่อยปลาที่บริเวณริมแม่น้ำแม่กลอง อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ครอบครัวพยายามตามหาทุกช่องทาง จนกระทั่งพบการเสียชีวิตของเธอที่ริมท่าน้ำในเวลาต่อมา
ในวันที่ 15-16 เมษายน 2566 ครอบครัวของผู้เสียชีวิตพบว่าทรัพย์สินหลายรายการหายไป ทั้งรถยนต์ กระเป๋าแบรนด์เนมมูลค่าประมาณ 40,000 บาท และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง นำไปสู่การตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่พบภาพผู้เสียชีวิตเดินทางไปกับหญิงสาวเสื้อสีขาว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นางสรารัตน์ รังสิตวุฒาภรณ์ เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และในวันถัดมา (26 เมษายน 2566) ได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา โดยผู้ต้องหาให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
วันที่ 30 มิถุนายน 2566 มีการแถลงสรุปคดี พร้อมดำเนินคดีในข้อหาต่างๆ รวมกว่า 75 ข้อหา ประกอบด้วย พยายามฆ่าผู้อื่น ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร
ต่อมาวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 พนักงานอัยการยื่นฟ้องผู้ต้องหากับพวกต่อศาลอาญา การพิจารณาคดีใช้เวลากว่าหนึ่งปี มีการสืบพยานและรวบรวมหลักฐานอย่างละเอียด โดยในวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในคดี และทั้งสามจำเลยให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา
วันที่ 17 กันยายน 2567 ศาลมีนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย แต่จำเลยที่ 1 ปฏิเสธที่จะเบิกความ ทำให้ศาลต้องพิจารณาจากพยานหลักฐานของโจทก์เป็นหลัก จนกระทั่งวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญามีคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลยที่ 1 ส่วนจำเลยที่ 2 ได้รับโทษจำคุก 1 ปี 4 เดือน และจำเลยที่ 3 ได้รับโทษจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมจำนวน 2 ล้านบาท
คดีนี้นับเป็นหนึ่งในคดีสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของกระบวนการสืบสวนสอบสวนของไทย โดยมีการสอบปากคำพยานกว่า 900 ปาก รวบรวมเอกสารเกี่ยวกับคดีถึง 26,500 แผ่น และใช้ทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ พยานแวดล้อม และการสืบสวนทางการเงิน เพื่อนำผู้กระทำความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ภาพ Freepik