ฆาตกรญี่ปุ่นถูกตัดสินประหารชีวิต หลังใช้มีด-ปืนสังหารคนตาย 4 ราย

มาซาโนริ อาโอกิ วัย 34 ปีใช้มีดแทงผู้หญิง 2 คนที่กำลังเดินอยู่ในเมืองนากาโนะ ก่อนที่จะใช้ปืนไรเฟิลสำหรับล่าสัตว์ ยิงตำรวจอีก 2 นาย ที่รีบเข้ามาระงับเหตุ หลังได้รับแจ้งเหตุ จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตทั้ง 2 นาย
ความรุนแรงจากอาวุธปืนเกิดขึ้นน้อยมากในญี่ปุ่น ซึ่งมีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนที่เข้มงวด และการก่อเหตุใช้ปืนยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจหลายนายเช่นนี้ยิงเกิดขึ้นยากเข้าไปอีก โดยเหตุการณ์เช่นนี้ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว
ฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่า โทษจำคุกตลอดชีวิตเหมาะสมสำหรับอาโอกิมากกว่า เพราะเขามีความสามารถลดลง เนื่องจากป่วยโรคจิตเภท
อัยการยอมรับว่า อาโอกิมีอาการจิตหลงผิด แต่โต้แย้งว่า เขาก่อเหตุฆาตกรรมขณะอยู่ในอาการโกรธ และสามารถแยกแยะผิดถูกได้ในขณะนั้น นอกจากนี้อาโอกิยังแสดงออกถึงความโหดร้ายและเลือดเย็น
หนังสือพิมพ์เดอะไมนิจิของญี่ปุ่นรายงานว่า มีรายงานว่า อาโอกิสวมชุดลายพราง หมวก แว่นกันแดด และหน้ากาก และได้ทำร้ายผู้หญิงกลุ่มดังกล่าว เพราะเขาเชื่อว่า พวกเธอพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับเขา แต่ยังไม่แน่ชัดว่า เขารู้จักผู้หญิงกลุ่มนี้หรือไม่
หลังเกิดเหตุ อาโอกิหลบอยู่ที่บ้านพ่อแม่ในเมืองนากาโนะเป็นเวลา 12 ชั่วโมงก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ โดยพ่อของเขา มาซามิจิ อาโอกิ เป็นประธานสภาเมืองนากาโนะด้วย
ก่อนที่มาซาโนริ อาโอกิจะถูกจับกุม ชาวบ้านในละแวกบ้านของเขาต้องหลบอยู่ในบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้แจ้งความคืบหน้าผ่านทางอีเมลและเครื่องขยายเสียงในละแวกบ้าน ขณะเดียวกันตำรวจก็ได้เข้าไปเคาะประตูบ้านทุกหลังด้วยเช่นกัน
ญี่ปุ่นมีกฎเกณฑ์การครอบครองอาวุธปืนที่เข้มงวด และพลเรือนสามารถครอบครองได้แค่ปืนไรเฟิลล่าสัตว์และปืนลมเท่านั้น ซึ่งต้องเข้ารับการตรวจร่างกายและทดสอบสุขภาพจิตอย่างเข้มงวดก่อนจึงจะซื้อปืนในญี่ปุ่นได้
หลังจากเกิดเหตุฆาตกรรมสี่ศพ เจ้าหน้าที่ได้เพิ่มความเข้มงวดของกฎหมายเพื่อให้การครอบครอง “ปืนไรเฟิลแบบ half rifle ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลล่าสัตว์แบบเดียวกับที่อาโอกิใช้ทำได้ยากขึ้น