รัสเซียตอบกลับสหรัฐฯ ปมยูเครน กับสงครามวิวาทะที่ไม่มีใครยอมใคร
---เดินหน้าหารือหวังทลายความตึงเครียด---
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า กรณีที่สหรัฐฯ ได้ส่งจดหมายลับหารัสเซียเพื่อหวังหาข้อสรุปเรื่องวิกฤตยูเครนที่กำลังเกิดขึ้น ล่าสุดสหรัฐฯ ได้รับจดหมายตอบกลับจากรัสเซียแล้ว แต่ทางกระทรวงยังไม่เปิดเผยเนื้อหาในจดหมายดังกล่าวแต่อย่างใด
การตอบกลับของรัสเซียมีขึ้นไม่กี่วัน หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้เขียนจดหมายส่งไปให้รัสเซีย และมีการวางแผนว่าจะมีการเจรจาผ่านทางโทรศัพท์ระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน และรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ในวันอังคาร (1 กุมภาพันธ์)
“มันคงไม่ดีหากเปิดเผยต่อสาธารณะ ดังนั้นเราจะปล่อยให้รัสเซียเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะหารือในสิ่งที่พวกเขาตอบกลับมาว่าอย่างไร เรายังคงยืนยันการเจรจาในประเด็นเหล่านี้ และเดินหน้าหารือร่วมอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรของเรา รวมถึงยูเครนด้วย” โฆษกต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว
ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า จดหมายตอบกลับของรัสเซียนี้ ได้รับก่อนที่จะมีการหารือในวงใหญ่อย่างเวทีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ในประเด็นวิกฤตยูเครน-รัสเซีย เมื่อวันจันทร์ (31 มกราคม) หรือไม่ ซึ่งเวทีดังกล่าว ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า เมื่อทูตของทั้ง 2 มหาอำนาจต่างตอบโต้กันอย่างดุเดือด
---สหรัฐฯ พร้อมตอบโต้รัสเซีย---
ย้อนกลับไปเมื่อ 17 ธันวาคม 2021 รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยร่างข้อตกลงการรับประกันความมั่นคงระหว่างรัสเซียและสหรัฐฯ รวมถึงร่างข้อตกลงเพื่อระหว่างรัสเซียและชาติสมาชิก NATO
โดยเน้นในเรื่องการรับประกันความมั่นคงว่า NATO จะไม่ขยายอำนาจไปยังฝั่งตะวันออกที่ติดกับรัสเซีย รวมถึงการไม่รับยูเครน และยุโรปตะวันออกอื่น ๆ เข้าเป็นสมาชิก ตลอดจนการไม่ขนอาวุธหนักเข้ามาใกล้กับพรมแดนรัสเซีย
ถัดมาวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมา สหรัฐฯ และ NATO ได้เขียนจดหมายลับฉบับหนึ่งถึงรัสเซีย โดยสหรัฐฯ ก็ไม่ได้เปิดเผยเนื้อหาสาระในจดหมายแต่อย่างใด
ด้าน แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำว่า สหรัฐฯ จริงจังในเป้าหมายเมื่อเป็นเรื่องทางการทูต แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ให้ความสำคัญเท่ากันกับการสนับสนุนการป้องกันยูเครน และพร้อมที่จะมีการตอบโต้อย่างเป็นเอกภาพทันที หากรัสเซียรุกรานมากขึ้น
ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับรัสเซียแล้วว่าจะตัดสินใจที่จะตอบอย่างไร เพราะสหรัฐฯ พร้อมในทุกทาง
---วาทกรรมเดือดกลางที่ประชุม UNSC---
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ลินดา ทอมัส-กรีนฟิลด์ ระบุว่า การเคลื่อนพลนับแสนของรัสเซียประชิดพรมแดนยูเครน ถือว่าเป็นการเคลื่อนพลครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายทศวรรษ
แต่ทูตรัสเซีย วาซิลี เนเบนซยา โต้กลับว่า อเมริกาพยายามปลุกปั่นกระแสข่าวว่าจะเกิดสงคราม และไม่ยอมรับหากนานาชาติจะแทรกแซงกิจการของรัสเซีย
ด้านสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ให้คำมั่นจะคว่ำบาตรรัสเซียอย่างหนักหากบุกยูเครน ตอนนี้กำลังร่างข้อกฏหมายเพื่อคว่ำบาตรบุคคลและธุรกิจที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลรัสเซีย
เนเบนซยา เอกอัครราชทูตรัสเซีย โต้กลับไปว่า ไม่มีหลักฐานว่ารัสเซียกำลังเตรียมทำสงครามกับยูเครน และการเคลื่อนพลภายในอาณาเขตของตนเอง ไม่ใช่กงการอะไรของสหรัฐฯ
---ยูเครนยืนหยัดต้านรัสเซีย---
ขณะเดียวกัน ผู้แทนของยูเครนประจำ UN เซอร์กีย์ คิสลิตสยา กล่าวว่า ยูเครนขอให้รัฐบาลรัสเซียถอนกำลังทหารออกจากบริเวณพรมแดนติดกับยูเครน และยูเครนขอปฏิเสธความพยายามของรัสเซียในการใช้กำลังทหาร ข่มขู่ยูเครนไม่ให้เข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO ตามที่รัสเซียต้องการ
พร้อมยืนยันสิทธิของยูเครน ในการตัดสินใจด้านความมั่นคงของชาติ รวมทั้งการเข้าร่วมกลุ่มองค์กรพันธมิตรใด ๆ ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม รัสเซียพยายามคัดค้านการจัดประชุมสมัยพิเศษของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แต่คะแนนค้านตำ่แค่ 2 คะแนน ต่อ 10 คะแนน
---จับตาเจรจาครั้งใหม่สหรัฐฯ-รัสเซีย---
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ-รัสเซีย เตรียมเจรจาทางโทรศัพท์วันนี้ หากเกิดขึ้นตามแผน จะเป็นการเจรจาตรงครั้งแรกระหว่างสองรัฐมนตรี ตั้งแต่การประชุมในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการประชุมปิดฉากลงโดยไม่มีความคืบหน้า
ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน มีแถลงการณ์ในวันจันทร์ (31 มกราคม) ว่า หากรัสเซียมีความจริงใจในการแก้ปัญหาความตึงเครียดนี้ ผ่านการเจรจา สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรก็จะยังคงยึดมั่นกับแนวทางสันตินี้ต่อไป
แต่หากรัสเซีย ตัดสินใจเดินออกจากการเจรจาและใช้วิธีทางทหารโจมตียูเครน รัสเซียก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำน้ันและจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์ที่ตามมา
—————
แปล-เรียบเรียง: ภัทร จินตนะกุล และ ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล
ภาพ: Reuters