รีเซต

สหรัฐฯ ขู่จะบุกไนจีเรีย ทำได้จริงหรือไม่ ?​ ปมชาวคริสต์ถูกสังหาร

สหรัฐฯ ขู่จะบุกไนจีเรีย ทำได้จริงหรือไม่ ?​ ปมชาวคริสต์ถูกสังหาร
TNN ช่อง16
6 พฤศจิกายน 2568 ( 16:50 )
6

เปิดต้นเดือนพฤศจิกายน หลังจบทัวร์เอเชียได้ไม่นาน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ก็เผยว่า เขาสั่งให้กระทรวงกลาโหม เตรียมพร้อมสำหรับ “ปฏิบัติการทางทหาร” ที่อาจเกิดขึ้นในไนจีเรีย และจะยุติการช่วยเหลือทั้งหมด หากรัฐบาลไนจีเรียไม่สามารถหยุดยั้งการสังหารชาวคริสเตียน จากกลุ่มขบวนการอิสลามหัวรุนแรงได้


คำถามคือ สหรัฐฯ มีอำนาจและเหตุผลเพียงพอที่จะดำเนินการเช่นนั้นหรือไม่ และเหตุใดชาวคริสเตียนในไนจีเรียจึงตกเป็นเป้าการสังหารอย่างต่อเนื่อง


ไนจีเรีย ประเทศแห่งความหลากหลาย


ต้องบอกก่อนว่า ไนจีเรียเป็นประเทศใหญ่มาก ๆ จนได้รับฉายาว่า เป็น “ยักษ์ใหญ่แห่งแอฟริกา” มีประชากรมากกว่า 230 ล้านคน 


ไนจีเรีย เป็นประเทศที่มีนโยบายเป็นกลางทางศาสนา ไม่ได้สนับสนุน หรือ กีดกันศาสนาใดเป็นพิเศษ ว่าง่าย ๆ คือ ประชาชนมีสิทธิ์จะนับถือศาสนาอะไรก็ได้ ส่งผลให้ชาวไนจีเรียต่างนับถือศาสนาอิสลาม และคริสต์จำนวนใกล้เคียงกัน 


ศาสนาอิสลามคิดเป็น 53% ขณะที่ ศาสนาคริสต์ คือ 45% ส่วนที่เหลือเป็นผู้ที่นับถือศาสนาดั้งเดิมของแอฟริกา


แม้ไนจีเรียจะมีนโยบายเป็นกลางทางศาสนา แต่ในความเป็นจริง ความต่างทางความเชื่อกลับแทรกซึมอยู่ทุกมิติของสังคม โดยเฉพาะในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ ที่เส้นแบ่งระหว่างชาวมุสลิมและคริสเตียนมักซ้อนทับกับเส้นแบ่งทางเชื้อชาติและเศรษฐกิจ ทำให้ความขัดแย้งทางศาสนาค่อย ๆ ปะทุขึ้นจากปัญหาแย่งชิงทรัพยากร เช่น ที่ดินและแหล่งน้ำ


ความรุนแรงต่อชาวคริสเตียนเพิ่มขึ้น


ความรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อชาวคริสเตียนในไนจีเรีย ได้รับความสนใจอย่างมากจากนานาชาติ และมักถูกมองว่าเป็น “การกดขี่ทางศาสนา” จนทำให้ “ทรัมป์” จะจัดให้ไนจีเรียอยู่ในกลุ่มประเทศที่น่ากังวลเป็นพิเศษ  โดยระบุว่า ศาสนาคริสต์ในไนจีเรียกำลังเผชิญกับภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ 


ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้อกล่าวหาเรื่อง การกดขี่ข่มเหงชาวคริสเตียนในไนจีเรีย ถูกเผยแพร่ในกลุ่มอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ มาอย่างต่อเนื่อง และทรัมป์ก็เคยพูดถึงประเด็นนี้ตั้งแต่สมัยดำรงตำแหน่งรอบแรกเช่นกัน


องค์กร Open Doors รายงานว่า ในปี 2024 มีชาวคริสเตียนในไนจีเรียถูกสังหารเพราะความเชื่อราว 3,100 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตที่นับถือศาสนาคริสต์ มากที่สุดในโลก


ขณะที่ รายงานของ International Society for Civil Liberties and Rule of Law (Intersociety) ระบุว่า 7 เดือนแรกปี 2025  มีชาวคริสเตียนถูกสังหารในไนจีเรียแล้ว 7,087 คน หรือมีชาวคริสเตียนถูกสังหารเฉลี่ย 30 รายต่อวัน 


ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมทรัมป์ถึงต้องการส่งทหาร เพื่อหยุดยั้งการสังหารชาวคริสเตียนจำนวนมากในไนจีเรีย 


แต่ทางด้าน ประธานาธิบดี “โบลา ทินูบู” ของไนจีเรีย ซึ่งนับถือศาสนาอิสลาม และแต่งงานกับชาวคริสเตียน ออกมายืนยันว่า ไม่มีศาสนาใดถูกเลือกปฏิบัติเป็นพิเศษ หรือถูกตั้งเป้าโจมตีโดยเฉพาะ

“ศาสนา” ไม่ใช่เหตุผลเดียวของความรุนแรง


เมื่อเห็นตัวเลขการเสียชีวิตของชาวคริสเตียนในไนจีเรียสูงขนาดนี้ คำถามสำคัญคือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับพวกเขา เป็นเหตุผลทางศาสนาจริงหรอ ? ต้องบอกว่า ไม่เสมอไป


ข้อมูลจาก ACLED ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2020-2025 มีเหตุโจมตีพลเรือนประมาณ 12,000 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 คน ซึ่งเหยื่อเป็นทั้งชาวมุสลิม และคริสเตียน ในจำนวนนี้ มีเพียง 5% เท่านั้น ที่เสียชีวิตด้วยเหตุผลทางศาสนา แบ่งเป็น ชาวคริสเตียน 317 คน และมุสลิม 417 คน 


ด้วยความที่ไนจีเรีย อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ อย่าง น้ำมัน และธาตุต่าง ๆ แต่เงินส่วนใหญ่กลับไปตกอยู่ในมือของกลุ่มชนชั้นสูง ขณะที่ ประชาชนจำนวนมากตกอยู่ภายใต้เส้นความยากจน เกิดการแย่งชิงที่ดิน, น้ำ และงาน จนก่อให้เกิด

ความรุนแรงทางเชื้อชาติ และการเมือง  


ภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ ทางเหนือของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มาก โดยมีกลุ่มติดอาวุธก่อเหตุจนมีผู้เสียชีวิตปีละหลายพันคน 


ส่วนตอนกลางไนจีเรีย ความขัดแย้งระหว่างชาวมุสลิม และชาวคริสเตียน มักถูกมองว่า เป็นเรื่องศาสนา แต่เหตุผลแท้จริง คือ การแย่งชิงที่ดิน และแหล่งน้ำ ที่เป็นปัญหาต่อเนื่องยาวนาน 


ฉะนั้น การที่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน เป็นผลสะท้อนของความล้มเหลวที่รัฐบาลไนจีเรียไม่สามารถปกป้องประชาชนทุกศาสนาได้ 

โอกาสส่งทหารบุกไนจีเรียเป็นไปได้หรือไม่ ?


แล้วการที่ทรัมป์ขู่จะส่งทหารเข้าไปไนจีเรีย หากไม่สามารถหยุดการฆ่าชาวคริสเตียนได้ จะมีโอกาสเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ต้องบอกตามตรงว่า มันค่อนข้างน้อยมาก 


บทความบนเว็บไซต์ Newsweek ระบุว่า เป็นไปได้ยากที่สหรัฐฯ จะส่งทหารบุกไนจีเรีย เพราะ ทรัมป์เองก็เคยบอกว่า เขาไม่ต้องการให้สหรัฐฯ เข้าไปข้องเกี่ยวกับสงครามต่างประเทศ และคัดค้านการส่งทหารสหรัฐฯ ออกนอกประเทศมาโดยตลอด 


ตอนนี้ กองทัพสหรัฐฯ ก็ประจำการอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาน้อยมาก ๆ หลังถอนกำลังออกจากไนเจอร์ ตอนเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2023 โดยตอนนี้ มีทหารสหรัฐฯ ประจำการในภูมิภาคนี้ไม่ถึง 1,000 นาย


ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงแห่งชาติ ชี้ว่า บทบาทสหรัฐฯ ในแอฟริกามีน้อยมาก เมื่อเทียบกับรัสเซีย และการจะส่งทหารเข้าสู่ดินแดนอื่นนั้น ต้องได้รับความยินยอมจากรัฐบาลนั้น ๆ ก่อน ไม่เช่นนั้น จะเป็นการละเมิดอธิปไตยได้ 


นอกจากนี้ ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เริ่มเบื่อหน่ายกับสงครามระหว่างประเทศแล้ว 


ถ้าหาก “ทรัมป์” ต้องการจะดำเนินการจริง ๆ ก็สามารถทำได้ด้วยการส่งหน่วยรบพิเศษเข้าไปปฏิบัติการเฉพาะจุด หรือ ย้ายกองกำลังเรือรบ ไปประจำการอ่าวกินี ซึ่งใกล้กับไนจีเรียได้ 


ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ การตัดความช่วยเหลือแก่ไนจีเรีย ก็ทำให้ชาวไนจีเรียส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ เพราะว่า ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือทั้งทางด้านสาธารณสุข, การศึกษา และอาหาร 


ขณะนี้ ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ก็ลดลง จาก 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2023 เหลือเพียง 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2025 


คำขู่ของทรัมป์ ยังก่อให้เกิดความกังวลในหมู่นักลงทุน จนทำให้ค่าเงินไนรา และพันธบัตรรัฐบาลไนจีเรียมีมูลค่าลดลง ซึ่งถือว่า เป็นผลเสียต่อตัวประธานาธิบดีทินูบู ที่พยายามปฏิรูปเศรษฐกิจประเทศ ด้วยการยกเลิกเงินอุดหนุนค่าน้ำมัน และปรับกฎเกณฑ์การแลกเปลี่ยนเงินตรา


แหล่งข้อมูลอ้างอิง: 


https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-11-04/why-is-trump-threatening-military-action-in-nigeria?embedded-checkout=true

https://www.newsweek.com/will-us-invade-nigeria-what-military-intervention-trump-could-look-like-10980057

https://www.theguardian.com/world/2025/nov/03/why-is-donald-trump-threatening-military-intervention-in-nigeria

https://www.aciafrica.org/news/17021/over-7000-christians-massacred-in-nigeria-by-jihadists-in-seven-months-report

https://apnews.com/article/nigeria-christian-genocide-trump-9e09e52e33e7efe2d2d27360d3695ef5

https://www.reuters.com/world/africa/trump-says-there-could-be-us-troops-ground-nigeria-or-air-strikes-2025-11-02/

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง