รีเซต

APP กำเงิน300ล้านพร้อมลงทุน จ่อคว้างาน EEC-มีดีลควบรวม

APP กำเงิน300ล้านพร้อมลงทุน จ่อคว้างาน EEC-มีดีลควบรวม
ทันหุ้น
26 ตุลาคม 2563 ( 09:00 )
116
APP กำเงิน300ล้านพร้อมลงทุน จ่อคว้างาน EEC-มีดีลควบรวม

ทันหุ้น - สู้โควิด – หัวเรือใหญ่ APP “ประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์” เผยปีหน้าเข้าสู่ปีของการลงทุนเต็มที่ กอดเงินสดกว่า 300 ล้านบาทพร้อมลงทุนหากมีช่องทางรับทรัพย์เพิ่ม คาดมีดีลควบรวมกิจการ 1 แห่ง เตรียมเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ทำเงิน ชี้โอกาสโตจาก EEC มีเพียบ หวังกวาดงานเข้าพอร์ต 100 ล้านบาท พร้อมรุกชิงงานใหม่ 30-40 ล้านบาท คาดชัดเจนไตรมาส 4/2563 นี้

 

นายประภาส ตั้งอดุลย์รัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอพพลิแคด จำกัด (มหาชน) หรือ APP เปิดเผยว่า บริษัทคาดปี 2564 ทิศทางผลประกอบการจะกลับมาเติบโตเพิ่มขึ้น จากปีนี้ที่คาดจะทรงตัว เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และเลื่อนการส่งมอบงานออกไป

 

ปีหน้าโอกาสโตเพียบ

 

“ปีหน้าจะเป็นปีของการลงทุน แม้ว่าปีนี้เราจะมีการลงทุนด้าน R&D ไปบ้างแล้ว แต่เรายังเหลือเงินสดอยู่กว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเตรียมจะลงทุนเพิ่มเติมในปีหน้า ทั้งเรื่องของแพลตฟอร์มใหม่ ดีลควบรวมกิจการ และโอกาสเติบโตใน EEC ซึ่งเราสามารถเข้าไปรับงานได้อีกมาก” นายประภาสกล่าว

 

สำหรับปี 2564 คาดรายได้จะเติบโตอยู่ในระดับ 15% จาก 3 ธุรกิจ คือ การจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบที่ใช้ในอุตสาหกรรม และซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบสถาปัตยกรรมและการก่อสร้าง , การจำหน่ายฮาร์ดแวร์ด้านการออกแบบ 3 มิติ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สำหรับใช้ในอุตสาหกรรม เครื่องพิมพ์ 3 มิติ สำหรับใช้งานทั่วไป เครื่องสแกน 3 มิติและธุรกิจการให้บริการ ได้แก่ บริการ Subscription Service และ บริการออกแบบ 3 มิติ ตามความต้องการของลูกค้า

 

ลูกค้าไหลกลับ

 

ขณะที่ความต้องการใช้ซอฟต์แวร์สำหรับการออกแบบ รวมถึงเครื่องพิมพ์ในโรงงานยังมีความต้องการ ตามการขยายโรงงาน ทั้งนี้คาดจะเห็นภาพการส่งมอบงานให้ลูกค้ากลับมาชัดเจนได้ในไตรมาส 2/64 หรือไตรมาส 3/2564 จากการเลื่อนส่งงานในปีนี้

 

ทั้งนี้บริษัทมองทิศทางธุรกิจจำหน่ายซอฟต์แวร์ และบริการจะเติบโตเพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ส่วนธุรกิจหารจำหน่ายฮาร์ดแวร์คาดจะทรงตัว สำหรับธุรกิจบริการจะเป็นช่องทางการเพิ่มรายได้ประจำให้กับบริษัท และคาดสัดส่วนรายได้จะเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 40% จากปีนี้อยู่ที่ 33% ซึ่งทิศทางรายได้มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นการจำหน่ายซอฟต์แวร์ที่สูงขึ้น

 

ขณะเดียวกันคาดว่าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EECจะเป็นอีกปัจจัยที่สนับสนุนการจำหน่ายสินค้าของบริษัท เพราะการลงทุนใน EEC ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเทคโนโลยี การศึกษา การแพทย์รวมถึงการส่งเสริมการท่องเที่ยว และสินค้าของบริษัทครอบคลุมทุกกลุ่มที่กำลังเติบโต

 

รุกรับงานเพิ่ม

 

อีกทั้งฐานในกลุ่ม EEC คือลูกค้าภาครัฐ หากมีงานเพิ่มขึ้น คาดจะสนับสนุนสัดส่วนรายได้ภาครัฐเพิ่มขึ้นเกิน 15% โดยบริษัทตั้งเป้าจะมีรายได้จากภาครัฐในปี 2564 เพิ่มขึ้นแตะ 100 ล้านบาท จากปีนี้คาดทำได้ที่ระดับ 70 ล้านบาท ส่วนงานของ EEC ในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 100 ล้านบาท สำหรับสัดส่วนรายได้จากเอกชนอยู่ที่ 85%

 

นอกจากนี้บริษัทเตรียมให้บริการแพลตฟอร์มใหม่สำหรับให้บริการแก่ผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ออกแบบ เขียนแบบ รวมถึงผู้ใช้บริการทั่วไป ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบระบบบริการ คาดจะเริ่มให้บริการได้ในปี 2564 โดยบริษัทคาดจะมีรายได้ 3 ช่องทางจากแพลตฟอร์มดังกล่าว ได้แก่ การขายโฆษณา , การขายสมาชิก และส่วนแบ่งจากการให้บริการ บริษัทประเมินจำนวนผู้ออกแบบอยู่ที่ 2 แสนราย ส่วนผู้ใช้บริการคาดจะอยู่ที่หลักหมื่นราย บริษัทจะพยายามดึงฐานลูกค้าเข้ามาใช้บริการบนแพลตฟอร์มมากขึ้น เพื่อสร้างการบริการแบบครบวงจร และเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้บริการ สำหรับการลงทุนแพลตฟอร์มใหม่บริษัทใช้เงินลงทุนประมาณ 30-40 ล้านบาท

 

แย้มดีลควบรวม

 

นายประภาส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การเติบโตแบบปกติแล้ว บริษัทยังมองหาการลงทุน M&A หรือควบรวมกิจการกับบริษัทขนาดเล็ก เพื่อสร้างกลยุทธ์และการเติบโตในอนาคตให้กับบริษัท ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาอยู่ 2-3 ราย คาดจะเห็นความชัดเจนในปี 2564 เบื้องต้นการทำดีล M&A ขนาดเล็กคาดจะใช้เงินลงทุนรวมกันประมาณ 50 ล้านบาท แต่หากเป็นบริษัทนาดใหญ่คาดจะใช้เงินลงทุนหลักร้อยล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีกระแสเงินสดพร้อมลงทุนอยู่ที่ 300 ล้านบาท

 

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในปีนี้บริษัทคาดรายได้อาจจะใกล้เคียงปีก่อน หรือลดลงเล็กน้อย เพราะได้รับผลกระทบจากการเลื่อนส่งมอบงานให้กับลูกค้าในช่วงครึ่งปีแรก และบริษัทจะพยายามรักษาฐานอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ 7-8%

 

ทั้งนี้บริษัทอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ 30-40 ล้านบาท คาดจะเห็นความชัดเจนในไตรมาส 4/2563 อนึ่ง 6 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 330.71 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 31.03 ล้านบาท ส่วนปี 2562 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 734.97 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 57.48 ล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง