ไต้หวันเตรียมรับ "รถถัง" M1 Abrams รุ่นส่งออกของอเมริกาเพิ่มเติมในปีนี้ ก่อนได้ครบตามแผนในปี 2026

รัฐบาลไต้หวันประกาศว่าจะรับมอบรถถังหลัก (Main Battle Tank: MBT) รุ่น M1A2T ซึ่งเป็นซีรีส์ M1A2 ล่าสุดแบบพิเศษสำหรับไต้หวันที่ผลิตในสหรัฐฯ เพิ่มเติมอีก 42 คัน ภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 นี้ ตามแผนการจัดซื้อทั้งหมด 108 คัน
ข้อมูลรถถัง M1 Abrams
เอ็มวัน เอแบรมส์ (M1 Abrams) เป็นรถถังหลักที่เปิดตัวในครั้งแรกเมื่อปี 1979 โดยบริษัท ไคร์สเลอร์ ดีเฟนซ์ (Chrysler Defense) ซึ่งถูกซื้อกิจการโดยเจเนอรัล ไดนามิกส์ แลนด์ ซิสเต็มส์ ในภายหลัง (General Dynamics Land Systems) ซึ่งมีการปรับปรุงตัวถัง ระบบอาวุธ และระบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องถึงปัจจุบัน
ในขณะที่ M1A2 เป็นการปรับปรุงรถถัง M1 ในปี 1992 ให้มีระบบอำนวยการรบให้กับห้องผู้บัญชาการประจำรถ (Tank commander) และมีการเสริมศักยภาพสำหรับระบบภายใน หรือเรียกว่าเอสอีพี (SEP: System Enhancement Package) ด้วย โดยรุ่นที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันของ M1 Abramsคือ M1A2 SEPv3 ที่มีใช้ในกองทัพบกของสหรัฐฯ จำนวน 600 คัน
รถถัง M1A2T เป็นรุ่นพิเศษของไต้หวัน (T - Taiwan) ซึ่งเจนส์ (Janes) บริษัทที่ปรึกษาด้านความมั่นคงระดับโลกรายงานว่าคล้ายกับ M1A2 SEPv3 ส่วนดีเฟนซ์ บล็อก (Defence Blog) สื่อทางการทหารในสหรัฐฯ รายงานว่า M1A2T จะใช้วัสดุเกราะเป็นวัสดุสำหรับส่งออกต่างประเทศ (Foreign Military Sale export armor: FMS) ซึ่งไม่เปิดเผยว่าเป็นวัสดุประเภทใด ต่างจากที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นวัสดุที่เรียกว่ายูเรเนียมด้อยสมรรถนะ (Depleted Uranium: DU)
สเปกรถถังหลัก M1 Abrams ของไต้หวัน
M1A2T มีความยาว 9.83 เมตร เมื่อให้กระบอกปืนใหญ่หันไปด้านหน้า กว้าง 3.7 เมตร มีน้ำหนักอยู่ที่ 66.8 ตัน ใช้เครื่องยนต์ใบพัด Honeywell AGT1500 กำลัง 1,500 แรงม้า (shp) 1,120 กิโลวัตต์ (kW) ทำความเร็วสูงสุดในทางราบ 67 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สำหรับทางวิบาก
อาวุธหลักของ M1A2T คือปืนใหญ่ลำกล้องเกลี้ยงขนาด 120 มม. (120 mm L/44 M256 smoothbore) บรรจุได้สูงสุด 40 นัด ปืนรองเป็นปืนกลหนักขนาด 0.50 คาลิเบอร์ 1 กระบอก ความจุ 900 นัด และปืนกลขนาด 7.62 M240 จำนวน 10,400 นัด อีก 2 กระบอก โดยมีตำแหน่งพลขับ พลปืน พลบรรจุ และผู้บังคับบัญชาประจำรถ รวม 4 ที่นั่ง
จุดเด่นสำคัญคือระบบอำนวยการรบและสั่งการแบบคอมพิวเตอร์ กล้องมองภาพกลางคืน (Nigt Vision) แบบอินฟราเรด (IFLIR) ติดตั้งระบบดาตาลิงก์ (Data Link) สำหรับรับข้อมูลภาพรวมสมรภูมิรบและระบบสั่งการการยิง และรองรับการติดตั้งระบบป้องกันรถถังแบบเอพีเอส (APS: Active Protection System) ซึ่งเป็นการทำลายอาวุธต่อต้านรถถังที่เป็นขีปนวิถีด้วยการทำลายระบบอิเล็กทรอนิกส์ของอาวุธนั้น ๆ (Soft-kill APS) และระบบอำนวยการรบอื่น ๆ
ราคารถถัง M1 Abrams ของไต้หวัน
ไต้หวันตั้งงบประมาณจัดซื้อ M1A2T จำนวน 108 คัน ไว้ที่ 1,260 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 42,000 ล้านบาท ในปี 2019 (เฉลี่ยคันละประมาณ 388.9 ล้านบาท) และทยอยรับเข้าประจำการ 38 คันแรก ในปี 2024 ก่อนที่คาดว่าจะได้อีก 42 คัน ตามแผนส่งมอบภายในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 และอีก 28 คันที่เหลือเชื่อว่าจะส่งมอบได้ภายใน 2026 นี้
M1A2T จะเข้ามาเสริมศักยภาพของกลุ่มรถถังหลักที่ปัจจุบันมีรถถังหลักรุ่น CM-11 Brave Tiger ที่ไต้หวันและ General Dynamics ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาตั้งแต่ปี 1984 กว่า 450 คัน รวมถึง M60 Patton รถถังหลักที่เริ่มพัฒนาตั้งแต่ปี 1959 ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเข้าประจำการในไต้หวันตั้งแต่ยุค 1990 กว่า 300 คัน และเป็นรุ่นที่ยังมีใช้งานทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยเช่นกัน