รีเซต

ปกครองหัวหินหาหลักฐานนาน 4 เดือน ก่อนแจ้งจับ 2 ผับคลัสเตอร์โควิด ต่อจากมายาผับ

ปกครองหัวหินหาหลักฐานนาน 4 เดือน ก่อนแจ้งจับ 2 ผับคลัสเตอร์โควิด ต่อจากมายาผับ
มติชน
11 สิงหาคม 2564 ( 09:42 )
58
ปกครองหัวหินหาหลักฐานนาน 4 เดือน ก่อนแจ้งจับ 2 ผับคลัสเตอร์โควิด ต่อจากมายาผับ

 

วันที่ 11 สิงหาคม มีรายงานว่า นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเจนวิท ผลิศักดิ์ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอหัวหิน นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ร้องทุกข์กล่าวโทษสถานบันเทิงชื่อดัง 2 แห่ง ประกอบด้วย “ไลน์อัพ” และ “ทองสุขคาเฟ่” ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ตามข้อมูลปรากฏในไทม์ไลน์ของสาธารณสุขจังหวัด หลังพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดจำวนมากในจังหวัดจากสถานบันเทิงดังกล่าว โดยให้ดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการ ผู้จัดการร้าน หรือบุคคลผู้มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ หรือหากสอบสวนแล้วมีผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกก็ให้ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าผืนพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 พระราชบัญญัติสถานบริการ พ.ศ.2509 คำสั่งที่ออกตามความในพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และคำสั่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์หรือระเบียบกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังพนักงานสอบสวนได้รับเรื่องแล้วจะดำเนินการเรียกตัวผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดไปสอบปากคำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

 

 

มีรายงานว่า กรณีที่เข้าแจ้งความล่าช้า หลังเกิดเหตุตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองระดับจังหวัดอ้างว่า เจ้าหน้าที่อำเภอหัวหินอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้เวลานานกว่า 4 เดือน และเกรงว่าหลังสือมวลชนทวงถาม อาจจะถูกแจ้งดำเนินคดีต่อ ป.ป.ช.ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 จึงเข้าแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของสถานบันเทิง 2 แห่งที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ และพบว่าอยู่นอกโซนนิ่ง มีไทม์ไลน์ของผู้ป่วยโควิดยืนยันว่าปิดบริการหลังเที่ยงคืน สำหรับร้านระรื่นชื่นบาร์ ซึ่งเป็นของเครือญาตินักการเมืองท้องถิ่นชื่อดัง มีไทม์ไลน์ผู้ป่วยโควิด 19 เช่นเดียว 2 ผับเถื่อน เจ้าหน้าที่อ้างว่ายังไม่แจ้งความ เนื่องจากไม่ทราบว่ามีบุคคลใดร่วมประกอบกิจการ

 

 

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสถานบันเทิง ภายหลังเกิดคลัสเตอร์โควิดใหญ่จากคอนเสิร์ต “โจอี้ บอย” ในสถานบันเทิง “มายาผับ” เขตเทศบาลเมืองหัวหิน เมื่อคืนวันที่ 30 มีนาคม ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2664 ต่อมาเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564 ศาลจังหวัดหัวหินได้พิพากษา สถานบันเทิง “มายาผับ” โดยศาลสั่งปรับจำเลยที่ 1 บริษัทมายามิวสิคเอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด จำนวน 40,000 บาท จำเลยที่ 2 นายชาลี ศรีทองกูล อายุ 48 ปี กรรมการบริษัทมายามิวสิคเอนเตอร์เทนเมนท์ จำกัด และจำเลยที่ 3 นายคมกริช พิลาคง อายุ 43 ปี ผจก.ดูแลร้านมายาผับ จำคุกคนละ 6 เดือน จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 จำเลยที่ 1 ปรับ 20,000 บาท จำเลยที่ 2 ที่ 3 จำคุกคนละ 3 เดือนโดยไม่รอการลงโทษ ซึ่งจำเลยที่ 2 ที่ 3 ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ โดยวางเงินสดคนละ 30,000 บาท ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากการตั้งข้อสังเกตว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีไม่ใช่เจ้าของตัวจริง

 

 

จ่าเอกเสกสรร จันทร แกนนำเครือข่ายต่อต้านการทุจริต จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังจากคดีถึงที่สุดจะติดตามการสอบข้อเท็จจริงจากฝ่ายปกครองอำเภอและปกครองจังหวัด กรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดลงนามในคำสั่ง ย้าย นายสมเจตร์ เจริญทรง ปลัดอำเภอหัวหิน ไปทำหน้าที่ที่ทำการปกครอง อ.กุยบุรี หลังพบเจ้าพนักงานปกครองอำเภอระดับสูงรายหนึ่ง ไปร่วมดื่มกินในคอนเสิร์ตที่มายาผับ มีชื่อถูกกักตัว 14 วัน ทำให้ถูกร้องเรียนถึง ป.ป.ช ว่าเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากการจัดคอนเสิร์ต ดังกล่าว เข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผิด พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ พ.ร.บโรคติดต่อ และไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่งของจังหวัดหลายฉบับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง