บทความคิดเห็น : ข้อตกลงหลัง 'อังกฤษ-อียู' หย่าร้าง ส่อแววใช้จริงยากยิ่งกว่าบรรลุ
ลอนดอน, 25 ธ.ค. (ซินหัว) -- หลังจากผ่านพ้นการเจรจาอันดุเดือดและเคร่งเครียดหลายรอบ สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป (EU) สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าหลังการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักรหรือเบร็กซิต (Brexit) ได้อย่างสำเร็จลุล่วงเมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) ปูทางสู่การหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันเลวร้ายจากความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 1 ม.ค. 2021
ด้วยเวลาที่เหลือเพียง 7 วัน ก่อนจะสิ้นสุดช่วงเปลี่ยนผ่านการเบร็กซิต ข้อตกลงการค้านี้ถือเป็นข่าวดีครั้งใหญ่สำหรับประชาชนบนสองฟากฝั่งช่องแคบอังกฤษ (English Channel) ซึ่งไม่ต้องการให้เกิดการเบร็กซิตที่ไร้กฎระเบียบควบคุม และถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ของความพยายามร่วมกันของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปในการครอบคลุมรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อหาจุดร่วมที่สำคัญผ่านการเจรจาทางการทูตทั้งนี้ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีกันได้
หมายความว่าการค้าทวิภาคีของสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป จะต้องกลับไปอยู่ภายใต้กฎระเบียบขององค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 2021คณะผู้เจรจาของทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งมั่นบรรลุข้อตกลง แม้จะมีความเห็นต่างกันอย่างยิ่งในเรื่องของการแข่งขันที่เป็นธรรม การบริหารปกครอง และการประมง ซึ่งขณะที่การเจรจาดำเนินไป สิทธิการประมงยังคงเป็นจุดยึดหลักสุดท้ายระหว่างสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปเบร็กซิตถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์สหภาพยุโรป และยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าข้อตกลงนี้จะเป็นคำตอบของคำถามที่ถูกมองข้ามในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของมนุษยชาติได้หรือไม่ในแง่หนึ่ง
ข้อตกลงใหม่นี้นำมาซึ่งเสถียรภาพที่สำคัญต่อโลกที่เผชิญการเปลี่ยนแปลงหลายมิติอย่างไม่เคยพานพบมาก่อนในรอบศตวรรษ แต่ในอีกแง่หนึ่ง ข้อตกลงดังกล่าวยังไม่อาจลบล้างผลพวงที่เกิดขึ้นจากการเบร็กซิตได้อย่างหมดจด ซึ่งทำให้หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงทั่วโลก ต่างตั้งคำถามเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับอนาคตที่กำลังจะมาถึงข้อตกลงการค้านี้มีความยาวราว 2,000 หน้า และเกิดขึ้นหลังการทำประชามติในสหราชอาณาจักรเพื่อถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปในปี 2016 มีอายุเกิน 1,640 วัน จะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อหลายธุรกิจที่กังวลถึงบทสรุปที่ไร้ข้อตกลงอันจะก่อให้เกิดความวุ่นวายตามมา และจะช่วยหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีอากรอันจะทำให้สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปเสียเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์และตำแหน่งงานอีกหลายแสนตำแหน่งในอีกด้านหนึ่ง
ข้อตกลงนี้ช่วยสร้างความมั่นใจที่จำเป็นอย่างยิ่งให้กับธุรกิจขนาดเล็กและกลางในสหราชอาณาจักร เนื่องจากจะช่วยให้พวกเขาไม่ต้องถูกจัดเก็บภาษีร้อยละ 10 สำหรับสินค้าประเภทรถยนต์ และมากกว่าร้อยละ 35 สำหรับผลิตภัณฑ์นม ซึ่งอาจสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อธุรกิจและผู้บริโภคของทั้งสองฝ่ายข้อตกลงนี้ยังบ่งบอกว่าประเทศสมาชิกของสหภาพยุโรปทั้ง 27 ประเทศ แสดงให้ทั่วโลกเห็นถึงความตั้งใจหนักแน่นในการปกป้องความเป็นหนึ่งเดียวกันและผลประโยชน์ส่วนรวม รวมถึงวิสัยทัศน์ในการจัดการ "การหย่าร้างในรอบศตวรรษ" (century divorce)สำหรับประเทศอื่นทั่วโลกแล้ว ข้อตกลงดังกล่าวได้ปกป้องเศรษฐกิจโลกจากการเกิดเหตุการณ์หงส์ดำ (Black Swan event) หรือสถานการณ์ที่ไร้ข้อตกลงซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อเสถียรภาพและการพัฒนาของโลกประโยชน์ที่ถูกกล่าวถึงข้างต้นเพียงพอที่จะทำให้ข้อตกลงนี้มีความสำคัญครั้งประวัติศาสตร์
แต่ไม่เพียงพอจะยุติผลพวงจากการเบร็กซิต ประการหนึ่งคือข้อตกลงไม่สามารถอุดความแตกแยกระหว่างผู้คัดค้านและผู้สนับสนุนเบร็กซิตในสหราชอาณาจักร สำหรับผู้สนับสนุนเบร็กซิตบางส่วน สหราชอาณาจักรได้ยอมอ่อนข้อที่ไม่จำเป็นหรือแม้กระทั่งไม่ยุติธรรมมากเกินไปในข้อตกลงที่ไม่สมบูรณ์แบบนี้ โดยบรรยากาศความไม่พอใจอาจถูกนักการเมืองที่สนับสนุนเบร็กซิตนำมาใช้ประโยชน์เพื่อแทรกแซงการบังคับใช้ข้อตกลงดังกล่าวในอนาคตได้นอกจากนี้เช่นเดียวกับที่นักวิเคราะห์จากสหราชอาณาจักรกังวล การ "หย่าร้าง" ที่ประสบความสำเร็จอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดการถอนตัว (Leave) ออกจากสหราชอาณาจักรในสก็อตแลนด์ในอนาคตอันใกล้ รวมถึงการโบกมือลาสหภาพยุโรปไม่ได้เป็นการสร้างนโยบาย "สหราชอาณาจักรระดับโลก" (Global Britain)
ทำให้มีทั้งโอกาสและความท้าทายนั้นรออยู่เบื้องหน้าตลอดการเดินทางของสหราชอาณาจักรในการก้าวสู่ความเป็นสากลในเวทีโลกขณะฟากฝั่งสหภาพยุโรป การถอนตัวของสมาชิกคนสำคัญสะท้อนถึงความถดถอยของการรวมกันเป็นกลุ่มก้อนของยุโรป และทำให้สหภาพยุโรปต้องกำหนดผังยุทธศาสตร์การพัฒนาระดับโลกและภายในอีกครั้ง ซึ่งเป็นกระบวนการที่ยากลำบาก กินระยะเวลานาน และคาดเดาไม่ได้สำหรับทั่วโลกแล้ว ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างสาหัสจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)
ความท้าทายที่เกิดขึ้นจากข้อตกลงการค้านี้ไม่สามารถคาดเดาได้โดยง่าย และมีวิธีเดียวในการรับมือคือต้องร่วมมือและป้องกันในระดับพหุภาคีเป็นที่ทราบโดยทั่วกันว่ากว่าจะได้ข้อตกลงนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การบังคับใช้นั้นอาจเป็นเรื่องที่ยากกว่า โดยการบังคับใช้ข้อตกลงอย่างราบรื่นจะเอื้ออำนวยต่อความเจริญรุ่งเรืองและเสถียรภาพของโลก ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่าเบร็กซิตเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ทั้งสหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรปต้องดำเนินการตามข้อตกลงด้วยการตัดสินใจที่แน่วแน่และประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม เนื่องจากมีปัญหาที่ต้องแก้ไขร่วมกันอีกมากในอนาคตอันใกล้ มิเช่นนั้นเบร็กซิตจะกลายเป็นอรุณรุ่งของยุคแห่งความแตกแยกวุ่นวายมากขึ้นสำหรับทั้งสองฝ่าย