พาชม TANK 300 ออฟโรดไฮบริดรุ่นเล็ก ดีไซน์หรูหราทันสมัย ใกล้เคียงรถยุโรป
รถยนต์แบรนด์ใหม่ของ GWM หลายคนอาจจะเห็นเรารีวิว TANK 500 เอสยูวีไฮบริดพรีเมียม กันไปแล้วซึ่งเป็นรถที่จะมาตีตลาด Fortuner สำหรับสายลุยที่ต้องการความพรีเมียมมากขึ้น แต่สำหรับใครที่คิดว่า TANK 500 คันใหญ่ไป ทาง GWM มีตัวเลือกในไซซ์ที่เล็กลงกับ TANK 300 ออฟโรดไฮบริด 5 ที่นั่ง ที่ดูจะทันสมัยกว่ารุ่นพี่เสียอีก
ความนิยมของ TANK 300 ขายดีระดับ 250,000 คันทั่วโลก ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ชอบกิจกรรมลุย ๆ ต้องการรถที่มีสมรรถนะสูงขับขี่ลุยธรรมชาติ และยังได้ความหรูหราระดับใช้งานในเมือง ไปจนถึงขนาดรถที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปในรถคันเดียว
ดีไซน์ภายนอกของ TANK 300 ให้ความรู้สึกเป็นรถออฟโรดที่ดูทันสมัยมากกว่า TANK 500 เส้นสายยังคงบึกบึน ซุ้มล้อขนาดใหญ่ มีความเหลี่ยมคมสไตล์ G-Class แต่ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะทาง TANK เขาได้วิศวกรจากแบรนด์ 3 แฉกมาร่วมดีไซน์หลายๆ ส่วนจึงมีความคล้ายคลึงกัน มาพร้อมไฟหน้าไฟท้าย LED หลังคาซันรูฟไฟฟ้า
ภายในห้องโดยสารมีความทันสมัยขึ้นจากวัสดุสีเงินตัดสีดำ มาพร้อมหน้าจอขนาด 12.3 นิ้วเชื่อมต่อกัน 2 จอ รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการณ์ใหม่เช่นเดียวกับใน TANK 500 ซึ่งเวลานี้มีใช้งานแค่รถ 2 รุ่นนี้เท่านั้นนะ รถรุ่นอื่นของ GWM ต้องรอลุ้นกันที
ตัวรถให้พวงมาลัยไฟฟ้าที่มีระบบปรับเกียร์ Paddle Shift ในตัว เส้นไฟตกแต่งห้องโดยสาร และขาดไม่ได้กับนาฬิกาที่ดูโมเดิร์นขึ้น เบาะที่นั่ง 2 แถว 5 ที่นั่ง ด้านหน้าเป็นเบาะไฟฟ้า ที่นั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง ที่นั่งแถวสองปรับพิงได้ 2 ระดับ และพับได้ 60/40 มีแผงควบคุมระบบแอร์ให้ที่นั่งแถวหลังด้วย พร้อมช่องเสียบชาร์จ USB-A จำนวน 2 ช่อง ด้านท้ายสัมภาระมีปลั๊ก 220V สำหรับจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ เช่นเดียวกับ TANK 500
ตัวรถทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 2 ลิตรและมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงกว่า 350 แรงม้า และแรงบิดรวมกว่า 600 นิวตันเมตร มาพร้อมโหมดขับขี่ 7 รูปแบบ โดยเฉพาะโหมดออฟโรดอย่าง พื้นหิมะ, พื้นโคลน, พื้นทรายและ 4L ซึ่งปรับได้ที่ปุ่มไดอัลด้านซ้ายเลย ซึ่งจัดเต็มระบบขับขี่แบบออฟโรดเช่นเดียวกับรุ่นพี่ ไม่ว่าจะเป็นระบบ OCC ควบคุมความเร็วแบบออฟโรด หรือ Tank Turn ช่วยกลับรถในที่แคบ ระบบตรวจความลึกระดับน้ำ ไปจนถึงกล้องใต้ตัวรถ
หลังจากเราที่เราได้ลองจับลองนั่งดูแล้ว รู้สึกว่า TANK 300 จะมีความทันสมัยและลูกเล่นภายในห้องโดยสารมากกว่า ในขณะที่ TANK 500 แม้ภายนอกจะดูเรียบไปสักนิดแต่ภายในกลับให้ความรู้สึกพรีเมียมมากกว่า ซึ่งเราก็มีติดใจกับดีไซน์ที่จับของ TANK 300 ที่วางอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของตัวรถ แต่เขาบอกว่าอันนี้เป็นดีไซน์พิเศษที่คิดขึ้นมาเพื่อรถคันนี้โดยเฉพาะเลยนะ ไปลองสังเกตดูได้ รอบนี้เรายังไม่ได้ขับ ไว้มีโอกาสจะกลับมาเล่าถึงฟิลลิ่งการขับขี่ให้ฟังอีกที
TANK 300 มีรุ่นย่อย 2 รุ่นเหมือนกับ TANK 500 คือ Ultra และ Pro ต่างกันที่ออปชันตกแต่ง มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีส้ม สีดำ สีเทาและสีขาว ส่วนราคานั้นต้องรอทาง GWM เปิดราคาวันที่ 28 ก.ย.นี้กันอีกทีนะครับ