BBL กำไรสุทธิ 9 เดือน 38,247 ลบ. โต 9.9% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยพุ่ง 39.4%

BBL กำไรสุทธิ 9 เดือน 38,247 ลบ. โต 9.9% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยพุ่ง 39.4%
#ทันหุ้น #SET #BBL ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2568 จำนวน 38,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.9 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สะท้อนผลการบริหารจัดการสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกระจายแหล่งที่มาของรายได้ที่หลากหลาย ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจในหลายด้าน
ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 94,364 ล้านบาท โดยมีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ ร้อยละ 2.81 สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงเล็กน้อยจากบริการธุรกรรมผ่านธนาคารและกองทุนรวม
ทั้งนี้ ธนาคารยังคงพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงอยู่ที่ ร้อยละ 44.7 นอกจากนี้ จากการที่ธนาคารตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับไตรมาส 3/2568 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้ยอดสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2568 อยู่ที่ 29,549 ล้านบาท
ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อรวม 2,606,661 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 3.2 จากสิ้นปีก่อน โดยสินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ ร้อยละ 3.3 ซึ่งอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ดี ขณะที่อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ ร้อยละ 294.2 สะท้อนถึงนโยบายการตั้งสำรองด้วยความระมัดระวังและรอบคอบอย่างต่อเนื่อง
ธนาคารมีเงินรับฝาก ณ สิ้นเดือนกันยายน 2568 รวม 3,174,287 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน และมีอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝากอยู่ที่ ร้อยละ 82.1 ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนรวม อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อย อยู่ที่ ร้อยละ 22.6, ร้อยละ 18.0 และ ร้อยละ 18.0 ตามลำดับ ซึ่งยังอยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์เงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
ธนาคารและบริษัทย่อยมี กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารสำหรับไตรมาส 3/2568 จำนวน 13,789 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 16.5 จากไตรมาสก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยซึ่งเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิของเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน รวมถึงกำไรจากเงินลงทุน และรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจหลักทรัพย์ บริการประกันผ่านธนาคาร และกองทุนรวม ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตามภาวะอัตราดอกเบี้ยและการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอตัว
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารยังคงตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตอย่างรอบคอบ ส่งผลให้ยอดสำรองในไตรมาสนี้ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารเพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.5 ส่วนใหญ่จากกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการปล่อยสินเชื่อที่ชะลอตัว โดยธนาคารยังคงบริหารค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน
สำหรับงวด 9 เดือนปี 2568 ธนาคารมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคาร 38,247 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 9.9 จากปีก่อน จากการบริหารสินทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการกระจายรายได้จากแหล่งที่มาที่หลากหลาย แม้อยู่ท่ามกลางความท้าทายทางเศรษฐกิจหลายด้าน รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรสุทธิของเครื่องมือทางการเงินและกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงตามแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ธนาคารยังคงมุ่งพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง พร้อมบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตภายใต้หลักความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า
ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 3/2568 จำนวน 30,750 ล้านบาท ลดลงจากทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือนปี 2568 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 94,364 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน สอดคล้องกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยและการชะลอตัวของสินเชื่อ ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิลดลงเป็น ร้อยละ 2.81
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 16,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน ส่วนใหญ่จากกำไรสุทธิในเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน และกำไรจากเงินลงทุน รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์และบริการประกันผ่านธนาคาร ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยตลอด 9 เดือนแรกของปีอยู่ที่ 43,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนตามภาวะตลาด
ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานในไตรมาส 3/2568 อยู่ที่ 20,697 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 3.0 จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง ร้อยละ 5.2 จากปีก่อน สำหรับงวด 9 เดือนปี 2568 อยู่ที่ 61,541 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.5 จากปีก่อน โดยธนาคารยังคงพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานลดลงเหลือ ร้อยละ 44.7
ธนาคารและบริษัทย่อยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 29,549 ล้านบาท สำหรับงวด 9 เดือนปี 2568 เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ภายใต้หลักความระมัดระวังและรอบคอบ โดยพิจารณาจากปัจจัยเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ทั้งจากการค้าระหว่างประเทศ การท่องเที่ยวที่ชะลอตัว และสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งธนาคารจะยังคงติดตามและประเมินสถานการณ์เหล่านี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
ณ วันที่ 30 กันยายน 2568 ธนาคารและบริษัทย่อยมี สินทรัพย์รวม 4,538,455 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นไตรมาสก่อน และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปีก่อน สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงิน และการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพของธนาคารอย่างต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
