รีเซต

ARIP ลุยคอมมาร์ทท้ายปี คนละครึ่งดันยอดสะพัด

ARIP ลุยคอมมาร์ทท้ายปี คนละครึ่งดันยอดสะพัด
ทันหุ้น
22 ตุลาคม 2568 ( 01:00 )
18

                นายบุญเลิศ  นราไท ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) หรือ ARIP ประกอบธุรกิจสื่อและคอนเทนต์ การจัดงานนิทรรศการ รวมถึงธุรกิจบริการดิจิทัล เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ได้เตรียมจัดงาน “COMMART UNBOX” มหกรรมสินค้าไอทีส่งท้ายปีในวันที่ 27 - 30 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งปีนี้มีสินค้าใหม่ออกมาเยอะมากกว่าปกติ จากเดิมที่ปลายปีจะมี Apple เป็นตัวหลัก โดยสินค้าใหม่ที่ลิสต์ไว้มีอยู่ประมาณ 20 รายการ โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณ 300,000 คน ตลอดทั้งงาน และมีเงินสะพัดประมาณ 3,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงกลางปี

                ขณะที่รายงานของการ์ทเนอร์ (Gartner) คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปี 2568 คอมพิวเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI PC จะครองส่วนแบ่งตลาดถึง 31% และเพิ่มเป็นกว่า 55% ในปี 2569 สะท้อนให้เห็นว่า AI PC กำลังเข้าสู่มาตรฐานใหม่ของการใช้งานเครื่องพีซีอย่างแท้จริง ซึ่งเชื่อว่ากระแสนี้จะส่งผลโดยตรงต่อบรรยากาศของงานคอมมาร์ทที่จะเกิดขึ้นในปลายเดือนพฤศจิกายน 2568 นี้

ทั้งนี้ผู้บริโภคจำนวนมากเริ่มมองหาเครื่องรุ่นใหม่ที่รองรับ AI และแบรนด์ต่างๆ ก็เตรียมเปิดตัวสินค้ากลุ่มนี้อย่างเต็มรูปแบบ อีกทั้งเทรนด์เทคโนโลยีครึ่งปีหลัง 2568 ถึงต้นปี 2569 จะมี AI PC เป็น Game Changer สำคัญ ทั้งจากโน้ตบุ๊กที่มี NPU สำหรับประมวลผลด้าน AI โดยเฉพาะ และความนิยมเกมฟอร์มยักษ์ที่ต้องการสเปกแรงระดับ AAA ซึ่งจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคอัพเกรดเครื่องมากขึ้น

ทั้งนี้แนวโน้มอุตสาหกรรมไอทีในปี 2568 เริ่มฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยในครึ่งปีแรกยอดขายสินค้าไอทีของบริษัทต่างๆ เติบโตขึ้น ขณะเดียวกันช่วงปลายปีที่เหลือยังมีแรงหนุนจากนโยบายรัฐต่างๆ ที่เข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งต้องยอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยยังไม่ค่อยดี และรัฐบาลกำลังพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ คาดว่าการกระตุ้นนี้จะช่วยในภาพรวมได้ ยกตัวอย่างเช่น มาตรการคนละครึ่ง

โดยภายในงาน “COMMART UNBOX” สามารถใช้คนละครึ่งได้ ซึ่งมีหลายแบรนด์ที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง อีกทั้งยังได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากกำลังซื้อที่เพิ่มมากขึ้นจากค่าใช้จ่ายที่ลดลงจึงอาจนำเงินที่เหลือมาจับจ่ายใช้สอยสินค้าอื่นๆ เพิ่มเติม

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/2568 ของบริษัทมีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากไตรมาส 2/2568 โดยยอดขายหลักมาจากฝั่งดิจิทัลที่ให้บริการแบบแพลตฟอร์ม E-Learning รวมถึงแพลตฟอร์มจัดงานออนไลน์ต่างๆ เช่น งานกาชาดออนไลน์, ระบบ E-Commerce, ระบบจองตั๋ว, ระบบซื้อของ ซึ่งแพลตฟอร์มเหล่านี้ถูกนำไปขายและต่อยอดกับงานอีเวนต์ที่บริษัทรับจัด

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้ดิจิทัลประมาณ 60%, การจัดงานอีเวนต์ประมาณ 20%, ธุรกิจสื่อประมาณ 10% และที่เหลือเป็นงานอื่นๆ อีกทั้งบริษัทกำลังอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ ซึ่งคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 40 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะทยอยรับรู้ในไตรมาส 4/2568 จนถึงไตรมาส 1/2569 ดังนั้นจึงคาดการณ์ว่ารายได้ทั้งปี 2568 จะเติบโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 15-20%

นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าการลงทุนในบริษัท Startup ที่ทำแพลตฟอร์มสำหรับตัวแทนประกันภัย โดยถือหุ้นประมาณ 19% ซึ่งบริษัทมองเห็นโอกาสที่จะมุ่งเน้นไปที่อุตสาหกรรมประกันภัย จากการที่บริษัทเคยได้รับงานจาก คปภ. ในช่วงโควิด-19 โดยคาดว่าจะเห็นผลตอบแทนจากการเข้าไปลงทุนภายในปี 2570 ตามสัดส่วนการถือหุ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง