BEC-KTC-XPG ดิ่งหนัก โบรกแนะรอพ้นพายุ Force Sel

หุ้นร้อนทั้ง 3 ตัวยังคงปรับตัวลงอย่างหนักในเช้าวันนี้หลังจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ยกเลิกมาตรการชั่วคราวให้กลับมาใช้เกณฑ์ซีลลิ่ง-ฟลอร์ 30% ตามเดิม ทำให้ BEC ดิ่งลงไป 29.77% มาที่ 1.84 บาท ลดลง 0.78 บาท ราคาล่าสุด 3 วันนี้ลดลงไปถึง 1.82 บาท จากราคาปิดสัปดาห์ก่อน (20 มิ.ย.) ที่ 3.66 บาท หรือลดลงไปเกือบ 50%
ส่วน XPG ช่วงต้นค่อนข้างผันผวน โดยราคาปรับลดลงไป 8% หรือยู่ที่ 0.46 บาท/หุ้น ลดลง 0.04 บาท ก่อนที่จะเด้งกลับมาบวกได้ 4% ที่ 0.52 บาท แต่ล่าสุดเมื่อเวลา 10.25 น.พลิกกลับไปร่วงลง 22% มาที่ 0.39 บาท ลดลง 0.11 บาท โดย 3 วันนี้ราคาลงไปแล้ว 45% จากราคาปิดสัปดาห์ก่อนที่ 0.71 บาท
ตามด้วย KTC ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 เช่นเดียวกัน โดยล่าสุดเมื่อเวลา 10.34 น.ปรับลดลง 8.40% มาที่ 22.90 บาท ลดลง 2.10 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่นเป็นอันดับหนึ่งของเช้านี้
รวมมูลค่าการซื้อขายหุ้น 3 ตัวนี้ทะลุหมื่นล้านบาทไปแล้ว โดย KTC มูลค่าการซื้อขายสูงสุดกว่า 9.6 พันล้านบาท XPG ราว 615 ล้านบาท และ BEC ราว 340 ล้านบาท
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การที่ราคาหุ้น 3 ตัวนี้ ทั้งหุ้น บมจ.บีอีซี เวิลด์ [BEC], บมจ.บัตรกรุงไทย [KTC] และบมจ. เอ็กซ์สปริง แคปปิตอล [XPG] ยังร่วงลงมาต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้เป็นวันที่ 3 คาดว่าเป็นผลจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ถูก Force Sell ออกมา ดังนั้น หุ้น KTC BEC XPG ก็ยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงได้ต่อเพราะยังมีออร์เดอร์รอขายอยู่อีกมาก
แต่ด้วยภาพของปัจจัยพื้นฐานของหุ้นทั้ง 3 ตัวยังไม่มีประเด็นใดเข้ามากระทบกับการดำเนินธุรกิจ จึงต้องติดตามว่าประเด็น Force Sell จะคลี่คลายลงอย่างไร เพราะยังเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นในระยะสั้น แนะนำให้ wait & see ไปก่อน
ตามด้วย KTC ราคาหุ้นปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 เช่นเดียวกัน โดยล่าสุดเมื่อเวลา 10.34 น.ปรับลดลง 8.40% มาที่ 22.90 บาท ลดลง 2.10 บาท มูลค่าซื้อขายหนาแน่นเป็นอันดับหนึ่งของเช้านี้
*KTC ชี้เเจง
นางสาวพิทยา วรปัญญาสกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด(มหาชน) หรือ KTC ตามที่ราคาหุ้นของ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงวันที่ 23 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะมีเป็นไปตามปัจจัยภายนอกและกลไกการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อย่างไรก็ตามบริษัท ได้รับการสอบถามจากหลายภาคส่วนอย่างต่อเนื่องถึงการดำเนินงานของบริษัท
ดังนั้น เพื่อเป็นการให้ข้อมูลแก่ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนได้เล็งเห็นภาพที่แท้จริงของบริษัท ขอเรียนว่า บริษัทมีฐานะทางธุรกิจที่มีความแข็งแกร่ง ไม่มีเหตุการณ์สำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัท
บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินนโยบายตามเป้าหมายที่วางไว้ หากมีพัฒนาการใดที่มีนัยสำคัญและอาจมีผลกระทบต่อบริษัทฯ บริษัทฯ มีนโยบายในการเปิดเผยข้อมูลตามกฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนมีข้อมูลที่ได้รับอย่างถูกต้อง เท่าเทียม และทันเวลา ต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบและขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนที่ให้ความไว้วางใจในบริษัทฯ เสมอมา
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
