อินโดฯเผยเครื่องบินที่ตกในทะเลชวา เพิ่งผ่านการตรวจสอบ

วันนี้( 12 ม.ค.64) รัฐมนตรีคมนาคมอินโดนีเซีย เผยว่า เครื่องบินโบอิ้ง 737-500 เที่ยวบิน SJ182 ของสายการบินศรีวิจาย่าแอร์ลำนี้ ไม่ได้ใช้งานมาตั้งแต่เดือนมีนาคมจนถึงเดือนธันวาคม ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 และเพิ่งผ่านการตรวจสอบระบบความปลอดภัยต่างๆ เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2563 ว่าพร้อมกลับมาใช้งาน ก่อนกลับมาบินให้บริการเชิงพาณิชย์เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 โดยไม่พบความผิดปกติใดๆ ก่อนเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันเสาร์

จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุใดเครื่องบินโดยสารลำนี้ ซึ่งใช้งานมาเป็นเวลา 26 ปีจึงได้หายจากจอเรดาร์และเกิดอุบัติเหตุตกหลังจากที่เพิ่งขึ้นจากสนามบินประมาณ 4 นาทีเท่านั้น แต่จากสภาพซากเครื่องบินที่กระจายเป็นวงจำกัดบนพื้นที่ทะเล ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเครื่องบินยังคงสภาพเดิมไม่ได้ฉีกขาดหรือเกิดระเบิดเป็นชิ้นๆก่อนตกกระแทกพื้นน้ำ การตรวจสอบเทปบันทึกเสียงระหว่างนักบินกับเจ้าหน้าที่หอบังคับการบินไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่จากข้อมูลเรดาร์พบว่าเครื่องบินลดระดับความสูง 3,000 เมตร (ประมาณ 10,000 ฟุต) ด้วยเวลาไม่ถึง 1 นาที ก่อนที่จะกระแทกทะเลชวา ทำให้คนบนเครื่อง 62 คนเสียชีวิตยกลำ

ส่วนปฏิบัติการค้นหากล่องดำของเครื่องบินยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ประมาณ 3,600 คน เข้าร่วมในปฏิบัติการ พร้อมเรือหลายสิบลำและเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินเหนือหมู่เกาะที่อยู่นอกชายฝั่งกรุงจาการ์ตา นครหลวงของอินโดนีเซียเพื่อสนับสนุนการค้นหา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ขณะนี้สามารถกำหนดจุดที่อยู่ของกล่องดำได้อย่างคร่าวๆ หลังจากได้รับสัญญาณที่ส่งออกจากกล่องดำทั้งสองกล่อง ซึ่งบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความเร็ว ความสูงและทิศทางของเครื่องบินรวมทั้งบทสนทนาระหว่างนักบินด้วย 

ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินระบุว่า ข้อมูลจากกล่องดำสามารถอธิบายสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกได้เกือบร้อยละ 90

เกาะติดข่าวที่นี่