ค้นพบวัตถุจากนอกระบบสุริยะผู้มาเยือนดวงที่ 3 ในประวัติศาสตร์

วันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์ตรวจพบวัตถุท้องฟ้าลึกลับที่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของระบบสุริยะของเรา นั่นคือ “ดาวหางระหว่างดวงดาว” ซึ่งได้รับการตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า 3I/ATLAS โดยกล้องโทรทรรศน์สำรวจ ATLAS ที่ตั้งอยู่ในเมืองริโอฮูร์ตาโด ประเทศชิลี ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากองค์การนาซา (NASA)
ดาวหางจากนอกระบบสุริยะคืออะไร?
ดาวหางส่วนใหญ่ที่เราพบ มักเป็นวัตถุที่โคจรรอบดวงอาทิตย์ เช่นเดียวกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ แต่ 3I/ATLAS เป็นดาวหาง “ระหว่างดวงดาว” (Interstellar comet) หรือ วัตถุจากนอกระบบสุริยะที่มันไม่ได้กำเนิดในระบบสุริยะของเรา แต่อาจมาจากระบบดาวฤกษ์อื่น หรือลึกเข้าไปในกาแล็กซี ก่อนจะหลุดเข้าสู่ระบบสุริยะด้วยความเร็วสูง
นี่เป็นเพียงครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ที่มีการค้นพบวัตถุระหว่างดวงดาวเข้าสู่ระบบสุริยะ ต่อจาก 'Oumuamua ในปี 2017 และ 2I/Borisov ในปี 2019
เส้นทางและความปลอดภัยของโลก
ดาวหาง 3I/ATLAS ถูกพบขณะเคลื่อนที่มาจากทิศทางของกลุ่มดาวคนยิงธนู (Sagittarius) และในขณะนี้อยู่ห่างจากโลกประมาณ 670 ล้านกิโลเมตร หรือราว ๆ 4.5 หน่วยดาราศาสตร์ (AU) โดย 1 AU เท่ากับระยะห่างระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์
จุดเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ที่สุด (Perihelion) คาดว่าเป็นวันที่ 30 ตุลาคม 2025 โดยมีระยะห่างจากดวงอาทิตย์ขณะเข้าใกล้ที่สุดประมาณ 1.4 AU หรือราว 210 ล้านกิโลเมตร และมันจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดไม่เกิน 1.6 AU (ระยะปลอดภัย)
นักดาราศาสตร์จับตาดูใกล้ชิด
นับตั้งแต่การค้นพบ กล้องโทรทรรศน์อีกหลายแห่งทั่วโลก เช่น Zwicky Transient Facility ที่หอดูดาว Palomar ในแคลิฟอร์เนีย ได้เข้าร่วมสังเกตการณ์วัตถุนี้อย่างละเอียด รวมถึงการย้อนดูข้อมูลภาพเก่า (Pre-discovery data) เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการเคลื่อนที่ย้อนหลังไปถึงกลางเดือนมิถุนายน
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าดาวหาง 3I/ATLAS จะสามารถสังเกตได้จากกล้องโทรทรรศน์ภาคพื้นดินจนถึงช่วงเดือนกันยายน ก่อนที่มันจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์จนสว่างจ้าเกินกว่าจะมองเห็นได้ หลังจากนั้นในช่วงต้นเดือนธันวาคม เมื่อดาวหางโคจรพ้นจากดวงอาทิตย์แล้ว อาจสามารถสังเกตการณ์ได้อีกครั้ง
การศึกษาดาวหางระหว่างดวงดาวอย่าง 3I/ATLAS เป็นโอกาสอันหายากในการเข้าใจวัตถุที่มาจากนอกระบบสุริยะ ซึ่งอาจมีองค์ประกอบเคมีแตกต่างจากวัตถุที่เราคุ้นเคย และอาจเปิดเผยเบาะแสเกี่ยวกับต้นกำเนิดของระบบดาวอื่น ๆ ในจักรวาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากสามารถวิเคราะห์ไอระเหยหรือฝุ่นจากดาวหางได้ นักวิทยาศาสตร์อาจพบร่องรอยของโมเลกุลอินทรีย์ หรือข้อมูลที่ชี้ไปถึงกระบวนการก่อกำเนิดดาวเคราะห์ในระบบอื่น ๆ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
