'เศรษฐกิจปาเลสไตน์' เผชิญภาวะช็อกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
(แฟ้มภาพซินหัว : ผู้คนตรวจสอบซากสิ่งปลูกสร้างที่พังเสียหายจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา วันที่ 3 พ.ค. 2024)
รอมัลลอฮ์, 26 พ.ค. (ซินหัว) -- เมื่อวันเสาร์ (25 พ.ค.) โมฮัมเหม็ด อาลามูร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจแห่งชาติปาเลสไตน์ กล่าวเตือนว่าเศรษฐกิจปาเลสไตน์กำลังเผชิญกับภาวะช็อก "อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างกลุ่มฮามาส-อิสราเอลในฉนวนกาซาที่กำลังดำเนินอยู่
อาลามูร์ระบุว่า "สงคราม" และการปิดล้อมทางการเงินและเศรษฐกิจที่ดำเนินการโดยรัฐบาลอิสราเอล กำลังขัดขวางกิจกรรมเชิงพาณิชย์ และคาดว่าอาจส่งผลให้เศรษฐกิจปาเลสไตน์หดตัวถึงร้อยละ 10
รายงานของธนาคารโลกที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (23 พ.ค.) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจปาเลสไตน์จะหดตัวราวร้อยละ 6.5- 9.4 ในปีนี้
อาลามูร์เปิดเผยว่าเศรษฐกิจปาเลสไตน์สูญเสียเงินราว 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 733 ล้านบาท) ทุกๆ วัน เนื่องจากภาคการผลิตที่ต้องยุติลงอย่างสิ้นเชิงในฉนวนกาซา การหยุดชะงักในเขตเวสต์แบงก์ การว่างงานของคนงาน รวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกำลังการซื้อที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ อาลามูร์เรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศบีบให้รัฐบาลอิสราเอลหยุด "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" และยุติการปิดล้อมทางการเงินและเศรษฐกิจซึ่งถือเป็น "การแบล็กเมล์ทางการเมือง" (political blackmail)
ธนาคารโลกระบุในรายงานว่าการคลังสาธารณะของทางการปาเลสไตน์ย่ำแย่ลงอย่างมากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่การคลังสาธารณะจะล่มสลายอย่างมีนัยสำคัญ
รายงานระบุว่าเมื่อนับถึงสิ้นปี 2023 ช่องว่างทางการเงิน (financing gap) ในท้องถิ่นมีมูลค่าสูงถึง 682 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.5 หมื่นล้านบาท) และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 เท่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจนแตะที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 หมื่นล้านบาท)