รีเซต

อภัยภูเบศรเคลียร์ชัด ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์สกัดโควิด-19

อภัยภูเบศรเคลียร์ชัด ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์สกัดโควิด-19
มติชน
17 เมษายน 2564 ( 15:03 )
647
เมื่อวันที่ 17 เมษายน ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาล (รพ.) เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ชี้แจงกรณีมีการแชร์ข้อมูลสมุนไพรฟ้าทะลายโจรในโลกโซเชียล ที่มีทั้งจริงและเท็จ จนสร้างความสับสนในเรื่องของสรรพคุณ ว่า ในฐานะที่ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นผู้ให้ข้อมูลเรื่องฟ้าทะลายโจรในการต้านโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เป็นรายแรก ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 จึงขอไขข้อข้องใจในประเด็นต่างๆ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ดังนี้
 
 
 
1.ฟ้าทะลายโจร รักษาโควิด-19 ได้จริงหรือไม่ ต้องบอกว่า โควิด-19 เป็นโรคอุบัติใหม่ ไม่มียา หรือ วัคซีนใดที่จะตอบได้อย่างเต็มปากว่า รักษาหรือป้องกันได้จริง แต่จากการทบทวนเอกสารที่มีการศึกษา        วิจัยหลายฉบับ ทำให้มั่นใจว่าฟ้าทะลายโจรมีประโยชน์ในการนำมาใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 และได้ส่งมอบเอกสารให้กับกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการระบาดระลอกแรก จนนำไปสู่การใช้ฟ้าทะลายโจรรักษาผู้ป่วยโควิด-19 รายที่มีอาการน้อย และไม่มีอาการในโรงพยาบาลสังกัด สธ. พบว่าผู้ที่มีอาการน้อยหลังจากได้รับยาฟ้าทะลายโจรมีอาการดีขึ้นทุกราย โดยไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด ส่วนในรายที่ไม่มีอาการ ก็ไม่พบว่ามีอาการภายหลังและปลอดภัยดี
 
 
 
“อภัยภูเบศรจึงอยากให้มีการวิจัยฟ้าทลายโจร เพื่อให้เกิดผลเป็นที่ประจักษ์ จึงได้ส่งสารสกัดฟ้าทะลายโจร ให้คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศึกษากลไกในการต้านโควิด-19 ผลการศึกษาพบว่า สารสกัดฟ้าทะลายโจร และสารแอนโดรกราโฟไลด์ ซึ่งเป็นสารสำคัญในฟ้าทะลายโจร มีความสามารถในการยับยั้งกระบวนการติดเชื้อไวรัสของเซลล์ปอด โดยผ่านกลไกที่สำคัญ คือ การยับยั้งการแบ่งตัวของ      เชื้อไวรัสโควิด-19 ในทุกระยะ จึงมีโอกาสที่จะพัฒนาการใช้ฟ้าทะลายโจรเป็นยาเดี่ยว หรือใช้ควบรวมกับ    สูตรยามาตรฐานในการรักษาผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ปัจจุบันผลงานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร “Natural Products” เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว
 
 
 
2.ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้หรือไม่ ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนสนับสนุนการใช้ฟ้าทะลายโจรป้องกันโควิด-19 ได้ แต่มีการศึกษาพบว่าการใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำๆ (แอนโดรกราโฟไลด์ 11.2 มิลลิกรัม/วัน) กิน 5 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 3 เดือน ช่วยป้องกันหวัดได้ โดยนักวิจัยได้กล่าวถึงผลในการป้องกันหวัดว่า น่าจะเกิดจากฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ซึ่งก็มีงานวิจัยที่สนับสนุนอยู่มากพอสมควรว่า ฟ้าทะลายโจรมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
“ในส่วนตัวเองที่เก็บข้อมูลจากหมอพื้นบ้าน ก็เห็นในช่วงฤดูหนาว ชาวบ้านจะกินฟ้ากัน 2-3 ใบทุกวัน สำหรับผู้ประสงค์จะใช้ฤทธิ์เสริมภูมิคุ้มกัน ต้องกินฟ้าทะลายโจรขนาดต่ำๆ และต้องไม่ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร ตับและไตต้องดี ไม่ได้กินยาละลายลิ่มเลือดที่ชื่อวาร์ฟาริน” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว
 
 
 
 
3.ใช้ฟ้าทะลายโจร ไม่ต้องฉีดวัคซีนใช่หรือไม่ ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเป็นการเสริมภูมิคุ้มกันที่จำเพาะสำหรับเชื้อโควิด-19 ถึงแม้จะไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้ 100% แต่อย่างน้อยก็ป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรง ลดภาระของระบบบริการสุขภาพได้ การใช้ฟ้าทะลายโจรมีข้อมูลสนับสนุนว่ามีฤทธิ์เพิ่มภูมิคุ้มกันทั้งภูมิคุ้มกันที่มีมาแต่กำเนิดและภูมิคุ้มกันจำเพาะ แต่ยังไม่มีการศึกษากับเชื้อโควิด-19 โดยตรง ดังนั้นประชาชนควรฉีดวัคซีน ซึ่งจะเห็นได้จากประเทศอังกฤษที่มีการฉีดวัคซีนกันอย่างกว้างขวางทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง
 
 
 
 
4.ฟ้าทะลายโจรที่เป็นสารสกัดมีฤทธิ์ดีและปลอดภัยกว่าผงบดหยาบใช่หรือไม่ ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า  ไม่จริงเสมอไป ขึ้นกับมาตรฐานการผลิตและโรคที่นำไปใช้ ใน Thai Herbal Pharmacopoeia กำหนดไว้ว่า ต้องมีปริมาณแลคโตนรวมไม่น้อยกว่าร้อยละ 6 และแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 1 ซึ่งในมาตรฐานดังกล่าวใช้สำหรับบรรเทาอาการเจ็บคอและบรรเทาอาการของโรคหวัด (common cold) เช่น เจ็บคอ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ โดยขนาดที่แนะนำ 1500-3000 มิลลิกรัม วันละ 4 ครั้ง หลังอาหารและก่อนนอน หรือใช้สารสกัดแอนโดรกราโฟไลด์ก็ได้ ประมาณ 60-120 มิลลิกรัม/วัน ในการบรรเทาอาการเจ็บคอและหวัด
 
 
 
 
“ในส่วนของโควิด-19 ที่มีใช้ในระบบบริการสุขภาพตอนนี้ ก็มีทั้งผงหยาบที่ทราบปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ และสารสกัด ดังนั้น ประเด็นจึงไม่ได้อยู่ที่ผงบดหยาบหรือสารสกัด แต่อยู่ที่ว่าผู้ป่วยได้รับปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ในปริมาณที่เพียงพอต่อการรักษาหรือไม่ ในส่วนของ รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็ใช้ผงบดหยาบที่มีปริมาณแอนโดรกราโฟไลด์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 ในการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคนอาการดีขึ้น ไม่มีผลข้างเคียง” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว
 
 
 
 
ทั้งนี้ ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ในการสกัดนั้น โดยปกติเป็นการสกัดที่มุ่งเน้นจะให้ปริมาณแอนโดรกราโฟ       ไลด์สูงๆ
“แต่โดยทั่วไปในภาคอุตสาหกรรมเราก็สกัด แอนโดรกราโฟไลด์ได้อยู่ที่ร้อยละ 6 ในขณะที่เราให้เกษตรกรปลูกให้จนเริ่มออกดอก แล้วนำส่วนเหนือดินมาใช้ก็ได้ถึง ร้อยละ 3-4 ในช่วงระบาดระลอกแรก โรงพยาบาลก็แจกเมล็ดพันธุ์พร้อมส่งวิธีปลูกให้ผู้สนใจ ตอนนี้หลายคนก็นำมาใช้บรรเทาหวัด ฟ้าทะลายโจรเป็นสมุนไพรที่ควรปลูกไว้ที่บ้าน ใช้ดูแลสุขภาพยามเจ็บป่วยได้” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวและว่า
 
 
 
 
ส่วนที่มีการส่งไลน์ต่อๆ กันว่า สาร 14-deoxy-11 12-didehydroandrographolide (AP 3) ที่พบในผงฟ้าทะลายโจรอาจทำให้ความดันโลหิตลดลง แขนขาอ่อนแรงได้นั้น ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า ยังไม่เคยเห็นรายงานดังกล่าว และฟ้าทะลายโจรในรูปแบบผงอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ มีการใช้อย่างกว้างขวางในโรงพยาบาล มีความปลอดภัยดี
 
 
 
 
“อย่างไรก็ตาม ย้ำว่า การสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นเกราะสำคัญในการป้องกันโรค ตั้งแต่มาตรการ DMHTT เว้นระยะ สวมหน้ากาก ล้างมือ การรับประทานอาหาร เน้นเครื่องเทศ ผัก ผลไม้ พักผ่อนเพียงพอ ออกกำลังกาย และสัมผัสแดดในช่วงเช้าหรือเย็น ล้วนแล้วแต่ต้องดำเนินการเป็นองค์รวม อย่าใช้เครื่องมือเดียว เพราะโควิด-19 เป็นโรคใหม่ที่เรายังไม่เข้าใจทั้งหมด ยังคงต้องผนึกกำลังของเครื่องมือในการดูแลสุขภาพทุกเครื่อง มือเข้าด้วยกัน” ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวและว่า ในอนาคตสนับสนุนให้ประชาชน ผู้ประกอบการรายย่อย ได้ปลูก เก็บเกี่ยว บด บริโภค แจกจ่าย และขายฟ้าทะลายโจร เพื่อการดูแลรักษาตนเองเป็นเบื้องต้น สำหรับผู้ที่ต้องการใช้ฟ้าทะลายโจร หรือสมุนไพรอื่นๆ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ศูนย์หลักฐานเชิงประจักษ์ ในวันและเวลาราชการ โทร.0 3721 1289 หรือ เฟซบุ๊ค สมุนไพรอภัยภูเบศร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง