LH ฟิลลิปคาดกำไร Q2/68 พีคสุดปีนี้ หั่นเป้าเหลือ 4.18 บ. รับศก.ผันผวน

#ทันหุ้น - บล.ฟิลลิป ส่องหุ้น บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH คาด Q2/68 กำไรสุทธิ 1,267 ลบ. +24.5% y-y +51.3% q-q หลักมาจากกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ที่สหรัฐฯ และคาดว่าจะเป็นระดับกำไรสุทธิที่สูงสุดในปีนี้ หากมองกำไรปกติที่ 723 ลบ. -31.5% y-y จากปีนี้มีความผันผวนทางเศรษฐกิจสูงขึ้น ทำให้การตัดสินใจบริโภคอสังหาฯ ลดลง แต่กำไรปกติยังทรงตัว q-q แม้มียอดโอนบ้านระดับราคาสูงกลับมาดีขึ้น q-q แต่ถูกกดดันจากส่วนแบ่งกำไรที่คาดว่ากำไรของ HMPRO จะลดลงทั้ง y-y และ q-q

ทั้งนี้ Q2/68 คาดกำไรสุทธิสูงขึ้น y-y และ q-q ที่ 1.2 พันลบ. มาจากกำไรพิเศษ 701 ลบ. จากการขายสินทรัพย์ 2 แห่งในสหรัฐฯ หากมองกำไรปกติที่ 723 ลบ. ยังอ่อนตัว y-y จากยอดโอนและคาดการณ์กำไร HMPRO ที่ลดลง แต่ทรงตัว q-q ถึงแม้มียอดโอนฟื้นตัวขึ้น และมี GPM ที่ดีขึ้นจากโอนบ้านระดับราคาสูง แต่ยังถูกกดดันจากส่วนแบ่งกำไรที่ลดลงทั้ง y-y และ q-q จากกำไรของ HMPRO ที่คาดว่าจะลดลงทั้ง y-y และ q-q

Q2/68 คาดยอดขายลดลง y-y แต่สูงขึ้น q-q โดยคาดยอดขายอยู่ในช่วง 4.0–4.1 พันลบ. ลดลง y-y จากความผันผวนด้านเศรษฐกิจที่สูงขึ้นกว่าปีก่อน ทำให้เกิดการชะลอการตัดสินใจการบริโภคอสังหาฯ ลง แต่ยอดขายสูงขึ้น q-q เห็นดีมานด์บ้านระดับราคาสูงเริ่มกลับเข้ามาในแบรนด์นันทวันและ Vive ดีขึ้น โดย Q2/68 มีเปิดตัว 1 โครงการ Vive กรุงเทพกรีฑา (ใหม่) มูลค่า 4,620 ลบ.

โดยคาดรายได้โอนที่ 3.0 พันลบ. -30.6% y-y +12.8% q-q ไปตามทิศทางของยอดขาย รายได้โรงแรม 2.0 พันลบ. -7.1% y-y จากการขาย Terminal21-พัทยา เข้า REIT ในช่วงปลายปีก่อน รายได้โรงแรม +2.0% q-q จากโรงแรม GCP-ลุมพินี ที่เริ่มดำเนินการใน Q2/68 เริ่มมีรายได้เข้ามา

มีรายได้รวม 5,146 ลบ. -22.2% y-y จากทั้งธุรกิจอสังหาฯ และโรงแรม +8.1% q-q จากธุรกิจอสังหาฯ เป็นหลัก มี GPM รวม 26.9% สูงขึ้น y-y จากการบริหารต้นทุนคงที่ (Indirect cost) ได้ต่ำกว่าปีก่อน และสูงขึ้น q-q จากระดับรายได้รวมที่สูงขึ้น ทำให้ต้นทุนคงที่/หน่วยต่ำลง

มีส่วนแบ่งกำไร 763 ลบ. ลดลง y-y และ q-q จากคาดการณ์กำไร HMPRO ที่ลดลง มีต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นจากการ roll over หุ้นกู้ชุดใหม่ มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์ 2 แห่งในสหรัฐฯ ได้แก่ Parc at Pruneyard และ Revere รวม 701 ลบ. (ก่อนภาษี) คาดกำไรสุทธิ 1,267 ลบ. +24.5% y-y +51.3% q-q น่าจะเป็นระดับกำไรที่สูงสุดในปี

มีกำไรปกติ 723 ลบ. -31.5% y-y -0.6% q-q

ราคาพื้นฐาน 4.18 บาท อิงวิธี SOTP ปัจจุบันราคาหุ้นปรับตัวขึ้นรับทิศทางการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและแนวโน้ม Q2/68 ที่น่าจะเห็นกำไรเป็นจุดสูงสุดในปีจากกำไรพิเศษที่เข้ามา ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 2H68 อาจชะลอตัวลงกว่า 1H68 อาจทำให้ธนาคารมีการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังมากยิ่งขึ้น และเห็นสัญญาณของยอดขายเริ่มกลับมาชะลอลงในปลาย มิ.ย.

ด้วยมูลค่าตลาดของ QH และ HMPRO ที่ลดลง โดยอิงวิธี SOTP ฝ่ายวิจัยปรับราคาพื้นฐาน LH ลงมาที่ 4.18 บาท ปรับคำแนะนำลงเป็น “ทยอยซื้อ”