อีลอน มัสก์ กลายเป็นมหาเศรษฐีคนแรกของโลกที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 16 ล้านล้านบาท

อีลอน มัสก์ (Elon Musk) กลายเป็นบุคคลแรกของโลกที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิแตะ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 16 ล้านล้านบาท) ตามการจัดอันดับของ Forbes หลังจากราคาหุ้นบริษัท Tesla ที่ฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าธุรกิจเทคโนโลยีอื่น ๆ ของเขา เช่น บริษัทขนส่งอวกาศ SpaceX ที่มีโครงการสำรวจดวงจันทร์ร่วมกับนาซา และโครงการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมอย่าง Starlink รวมไปถึงบริษัท xAI ที่เดินหน้าพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ AI
ทรัพย์สินมหาศาลจากมูลค่าหุ้น Tesla
ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งปีหลังจากที่ทรัพย์สินของอีลอน มัสก์พุ่งทะลุ 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12.8 ล้านล้านบาท ตอกย้ำสถานะบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
โดยข้อมูลจากดัชนีมหาเศรษฐีโลกอย่าง Forbes ระบุว่า ทรัพย์สินสุทธิของอีลอน มัสก์แตะ 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 16 ล้านล้านบาท ในระหว่างวันพุธ ก่อนปิดที่ 499,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 15.97 ล้านล้านบาท
ทรัพย์สินของเขาผูกพันอยู่กับการถือหุ้นประมาณ 12% ในบริษัท Tesla ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยราคาหุ้นของบริษัท Tesla เพิ่มขึ้นราว 74.92% ในปีนี้ หลังจากช่วงต้นปีที่ราคาขึ้นลงอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ มีรายงานว่าอีลอน มัสก์ ยังได้เข้าซื้อหุ้น Tesla เพิ่มมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32,000 ล้านบาท เมื่อเดือนที่ผ่านมา เพื่อแสดงความเชื่อมั่นต่อบริษัทที่กำลังปรับตัวจากผู้ผลิตรถยนต์ไปสู่การเป็นบริษัทด้าน AI และหุ่นยนต์
ขณะเดียวกัน คณะกรรมการบริษัท Tesla ได้เสนอแผนค่าตอบแทนมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32 ล้านล้านบาท ให้มัสก์ หากอีลอน มัสก์ นำบริษัทเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้เป็นไปตามเป้าหมาย จากมูลค่าทางการตลาดของบริษัท Tesla ในปัจจุบัน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32.44 ล้านล้านบาท ไปถึง 8.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 275.74 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปี
ตัวอย่างแผนการที่ทำให้บริษัท Tesla ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว เช่น การส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า Tesla รวม 20 ล้านคัน การมีรถแท็กซี่ไร้คนขับ (Robotaxi) ให้บริการเชิงพาณิชย์ 1 ล้านคัน หรือแม้แต่การส่งมอบหุ่นยนต์ Optimus ติดตั้ง AI รวม 1 ล้านตัว
ค่าตอบแทนมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 32 ล้านล้านบาท ดังกล่าว นับเป็นการตั้งเป้าหมายทางการเงินและปฏิบัติการที่สูงมาก แผนดังกล่าวถือเป็นแพ็กเกจค่าตอบแทนผู้บริหารที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม แผนการมอบรางวัลก้อนโตนี้ให้กับอีลอน มัสก์ ถูกมองว่าเป็นเครื่องมือที่ทำให้อีลอน มัสก์ หันมาโฟกัสเรื่องภายในบริษัท Tesla มากขึ้น ในฐานะเสาหลักของบริษัท หลังจากที่ในช่วงต้นปี 2025 อีลอน มัสก์ มุ่งหน้าเข้าสู่โลกการเมืองสหรัฐอเมริกา จนเกิดกระแสสนับสนุนและต่อต้านจำนวนมาก
อาณาจักรธุรกิจจากรถยนต์สู่อวกาศและ AI
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ได้สร้างอิทธิพลมหาศาลต่อวงการเทคโนโลยี ตั้งแต่รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด การสื่อสารผ่านดาวเทียม ไปจนถึงปัญญาประดิษฐ์
โดยบริษัท AI ของเขาอย่าง xAI ถูกประเมินมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 2.4 ล้านล้านบาท ในเดือนกรกฎาคม และกำลังขยายซูเปอร์คอมพิวเตอร์ "Colossus" สำหรับการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ พร้อมเปิดตัวแชทบอท Grok ที่ตั้งเป้าแข่งขันกับ ChatGPT ของ OpenAI และ Gemini ของ Google
แม้ว่าปัจจุบันมูลค่าบริษัท xAI ที่ถูกประเมินมูลค่าเอาไว้ยังถือว่าต่ำกว่าบริษัท OpenAI ที่ถูกประเมินมูลค่าเอาไว้กว่า 500,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 16 ล้านล้านบาท
ขณะที่บริษัท SpaceX บริษัทขนส่งอวกาศของเขา ก็ถูกประเมินมูลค่าไว้ที่ 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 12.8 ล้านล้านบาท และยังคงเป็นผู้นำในธุรกิจอวกาศเชิงพาณิชย์ โดยมีเครือข่ายดาวเทียม Starlink ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และครองสัญญาการปล่อยดาวเทียมของรัฐบาลสหรัฐฯ จำนวนมาก
อิทธิพลเชิงอุตสาหกรรมของอีลอน มัสก์
การก้าวขึ้นเป็นผู้ประกอบการที่ร่ำรวยที่สุดในโลก สำหรับอีลอน มัสก์อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะเขากำลังปั้นอนาคตของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในหลายมิติ
เริ่มจากบริษัท Tesla ที่เดิมถูกมองว่าเป็นเพียงผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า แต่ปัจจุบันกำลังเปลี่ยนตัวเองสู่การเป็นบริษัทด้าน “AI และหุ่นยนต์” ผ่านโครงการ Optimus หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ และการพัฒนาขับเคลื่อนอัตโนมัติ Full Self-Driving ที่ใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ขั้นสูง
การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Tesla ไม่ได้แข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์อย่างเดียว แต่ยังยืนอยู่ในสนามเดียวกับยักษ์ใหญ่ AI และ Robotics ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังจะกำหนดเศรษฐกิจโลกในอนาคต
ครั้งหนึ่งอีลอน มักส์ เคยอธิบายเอาไว้ว่าโรงงานผลิตรถยนต์ของ Tesla จะเต็มไปด้วยหุ่นยนต์ Optimus ทำงานภายใต้แนวคิดเครื่องจักรสร้างเครื่องจักร หรือคล้ายยานต่างดาวที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว
ในอีกด้านหนึ่ง บริษัท SpaceX ได้ก้าวพ้นบทบาทของผู้ให้บริการปล่อยจรวดไปสู่การสร้างโครงสร้างพื้นฐานอวกาศระดับโลก โดยเฉพาะโครงการ Starlink ที่ปูเครือข่ายอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมหลายหมื่นดวงในวงโคจรต่ำ
สิ่งนี้ไม่ได้เพียงสร้างรายได้มหาศาล แต่ยังทำให้ SpaceX กลายเป็นผู้ครองเส้นเลือดสำคัญของการสื่อสารในศตวรรษที่ 21 ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ตัวอย่างเช่น บทบาทของ Starlink ในสงครามยูเครนแสดงให้เห็นว่าโครงสร้างพื้นฐานที่อีลอน มัสก์สร้างขึ้น อาจทรงอำนาจไม่แพ้รัฐมหาอำนาจใด ๆ
ขณะเดียวกัน การก่อตั้งบริษัท xAI ก็สะท้อนให้เห็นว่าอีลอน มัสก์ต้องการเข้าร่วมสงคราม AI ระดับโลกอย่างเต็มตัว โดยมุ่งท้าทายผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Google ด้วยผลิตภัณฑ์อย่างแชทบอท Grok และการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ “Colossus” สำหรับการฝึกโมเดลขนาดใหญ่
หากบริษัท Tesla และ SpaceX ทำให้อีลอน มัสก์เป็นผู้ควบคุมอนาคต ผ่านยานยนต์และอวกาศ บริษัท xAI ก็คือก้าวที่ทำให้เขาเข้ามาควบคุมอนาคตบนโลกดิจิทัลด้วยปัญญาประดิษฐ์ อีลอน มัสก์กำลังสร้างอาณาจักรที่ผสมผสานทั้งโลกจริงและโลกดิจิทัลเข้าด้วยกัน ซึ่งหากประสบความสำเร็จ อิทธิพลของเขาอาจจะไม่หยุดอยู่แค่การเป็นมหาเศรษฐี แต่จะเป็นสถาปนิกสร้างโลกอนาคตที่ทรงพลังที่สุดคนหนึ่งของโลก
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
