คลังเผย 4 จังหวัดภาคอีสานรับเงินหมื่นจากรัฐบาลสูงสุด
คลังเผย 4 จังหวัดภาคอีสานรับเงินหมื่นจากรัฐบาลสูงสุด โดยอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาสูงสุด 5.4 แสนคน ขณะที่ การกระจายตัวของการแจกเงินอยู่เป็นวงกว้าง สะท้อนรัฐบาลต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกลุ่มคนเปราะบาง
#ทันหุ้น นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)เปิดเผยว่า หลังรัฐบาลโอนเงิน 1 หมื่นบาทตามโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจพบว่าทใน 5 จังหวัดของประเทศที่ได้รับเงินจากโครงการดังกล่าวรอบแรก 1.45 แสนล้านบาทของรัฐบาล อยู่ในจังหวัดในภาคอีสานถึง 4 จังหวัด
ขณะเดียวกัน จังหวัดที่มีคนได้รับสิทธิ์ในโครงการนี้ของรัฐบาลมากที่สุด ก็ยังอยู่ในภาคอีสาน คือ จังหวัดนครราชสีมา
ทั้งนี้ การแจกเงินเฟสแรกของรัฐบาล ซึ่งแจกเป็นเงินสด ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง แทนที่จะแจกผ่านดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายเดิมของพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายเปราะบางที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40
ล้านคน และคนที่ถือบัตรคนพิการ 2.15 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนจน โดยคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งเป็นรายได้ใกล้เคียงกับค่าแรงขั้นต่ำของประเทศที่วันละ 300 บาท
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะคนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้รับการแจกเงินในโครงการนี้ของรัฐบาล จังหวัดนครราชสีมาก็ยังเป็นอันดับหนึ่งที่มีคนได้รับเงินมากที่สุด แต่อันดับสองที่ตามมาติดๆคือกรุงเทพมหานคร และคนพิการที่ได้รับการแจกเงิน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานครมากที่สุดอีกด้วย
เขากล่าวว่า ในภาพรวมการกระจายตัวกลุ่มเป้าหมายโครงการฯ จำนวน 14.55 ล้านคน แบ่งเป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40 ล้านคนและคนพิการ 2.15 ล้านคน โดยได้รับเงินคนละ 1 หมื่นบาท ผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนหรือช่องทางเดิมในการรับเงินเบี้ยความพิการ ตั้งแต่วันที่ 25-27 และ 30 ก.ย.นี้ โดยเงินจำนวน 1.45 แสนล้านบาท ที่โอนให้กับผู้ได้รับสิทธิถูกกระจายสู่ภาคเศรษฐกิจต่างๆ อย่างทั่วถึง ซึ่งนอกจากช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันแล้วยังสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั่วประเทศไปพร้อมๆ กัน
โดยพบว่า ภาคที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด ได้แก่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (5.8 ล้านคน) รองลงมาได้แก่ ภาคเหนือ (3.3 ล้านคน) ภาคใต้ (2.2 ล้านคน) กรุงเทพฯ และปริมณฑล (1.0 ล้านคน) ภาคตะวันตก (0.75 ล้านคน) ภาคตะวันออก (0.73 ล้านคน) และภาคกลาง (0.62 ล้านคน) และ จังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.นครราชสีมา (5.4 แสนคน) จ.อุบลราชธานี (4.4 แสนคน) จ.ศรีสะเกษ (4.0 แสนคน) จ.เชียงใหม่ (3.9 แสนคน) และ จ.บุรีรัมย์ (3.7 แสนคน) ส่วนจังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง (2.7 หมื่นคน) จ.ภูเก็ต (2.8 หมื่นคน) จ.ตราด(3.1 หมื่นคน) จ.สมุทรสงคราม (3.3 หมื่นคน) และ จ.พังงา (4.2 หมื่นคน)
หากพิจารณาเฉพาะผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 12.40 ล้านคน จะพบว่า จังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.นครราชสีมา (5.3 แสนคน) กรุงเทพฯ (4.4 แสนคน) จ.อุบลราชธานี (4.3 แสนคน) จ.เชียงใหม่ (3.9 แสนคน) และ จ.ศรีสะเกษ (3.8 แสนคน) และจังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง (2.7 หมื่นคน) จ.ภูเก็ต (2.8 หมื่นคน) จ.ตราด (3.1 หมื่นคน) จ.สมุทรสงคราม (3.3 หมื่นคน) และ จ.พังงา (4.2 หมื่นคน)
และหากพิจารณาเฉพาะคนพิการ 2.15 ล้านคน จะพบว่า จังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิมากที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ กรุงเทพฯ (9.9 หมื่นคน) จ.นครราชสีมา (8.5 หมื่นคน) จ.บุรีรัมย์ (6.8 หมื่นคน) จ.อุบลราชธานี (6.2 หมื่นคน) และ จ.ขอนแก่น (5.9 หมื่นคน) และจังหวัดที่มีจำนวนผู้ได้รับสิทธิน้อยที่สุด 5 ลำดับแรก ได้แก่ จ.ระนอง (3.9 พันคน) จ.ตราด (4.5 พันคน) จ.สมุทรสงคราม (6.1 พันคน) จ.ภูเก็ต (6.8 พันคน) และ จ.สิงห์บุรี (7.0 พันคน)
เขากล่าวอีกว่าจำนวนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการกระจายตัวอยู่เป็นวงกว้าง สะท้อนว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจให้ความสำคัญกับการเติบโตจากเศรษฐกิจฐานรากผ่านกลุ่มคนเปราะบางได้อย่างทั่วถึง(Inclusive)