สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ ยอมรับการทำงานนับจากนี้เป็นความท้าทาย

วันนี้ (13ส.ค.63) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าเข้าสักการะพระพรหม บนตึกไทยคู่ฟ้า พร้อมกับสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตายาย พร้อมเปิดเผยว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน โดยในส่วนของการทำงาน ขอร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน ว่าจะได้รับมอบหมายให้ดูแลหน่วยงานไหน ซึ่งในส่วนของกระทรวงพลังงานก็เตรียมที่จะเข้ารับหน้าที่ที่กระทรวงตามกำหนดการต่อไป

นายสุพัฒนพงษ์ ยอมรับว่า ภาวะการตกงานในช่วงสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำขณะนี้ ทุกคนย่อมคาดหวังมาตรการใหม่ๆที่จะมารองรับสิ่งที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ ยังยอมรับอีกว่า การทำงานนับจากนี้จะเป็นความท้าทายกับตนเอง โดยเฉพาะงานระบบราชการที่ตนเองจะต้องปรับและเรียนรู้ เพราะตนเองมาจากภาคเอกชน แต่ก็จะพยายามทำงานอย่างเต็มที่ 

ส่วนการที่ตัดสินใจเข้ารับตำแหน่งนี้ เพราะเข้าใจกับปัญหาที่เกิดขึ้นและส่วนตัวมีความเชื่ออย่างหนึ่งว่า ถ้ามีโอกาสที่จะช่วยประเทศชาติได้ก็ยินดี ซึ่งทุกคนทราบดีว่า ตนเองได้เกษียณอายุและได้พักผ่อนมา 1 ปีแล้ว และมีโอกาสได้รับฟังปัญหามาโดยตลอด ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้เป็นสถานการณ์พิเศษ มีการระบาดของโควิด-19 ที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับประเทศไทยเพียงเท่านั้น นี่คือสิ่งไม่แน่นอน จึงเป็นความท้าทายที่จะต้องเข้ามาทำหน้าที่อย่างดีที่สุด และมีส่วนร่วมในการทำงานกับ ครม.ชุดนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาประเทศ

ขณะเดียวกันเชื่อว่าสถานการณ์โควิด-19 ถือว่าประเทศไทยบริหารจัดการบ้านเมืองเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี ขณะที่ต่างประเทศต้องรับมือการระบาดอย่างหนัก ดังนั้นเวลานี้ไทยถือว่ารับศึกด้านเดียว ซึ่งถือเป็นความสามารถของนายกรัฐมนตรีและครม.ที่ผ่านมา ในการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาได้ดี ส่งผลให้นับจากนี้อยู่ในการดำเนินการต้องฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจให้เดินหน้า ซึ่งทุกคนจะต้องมาร่วมกันเป็น รวมใจ ไทยสร้างชาติ 

ส่วนสถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้จะส่งผลต่อการทำงานด้านเศรษฐกิจหรือไม่นั้น นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า วันนี้ต้องมาร่วมมือกันให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และทำงานต่อไป ทั้งนี้ ยังเลี่ยงที่จะตอบถึงกรณีความวุ่นวายภายในพรรคพลังประชารัฐ จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของตนหรือไม่