รีเซต

"Magdrive" พัฒนา “เครื่องยนต์ดาวเทียม” ใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงจากโลหะ ลดขยะอวกาศ !

"Magdrive" พัฒนา “เครื่องยนต์ดาวเทียม” ใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงจากโลหะ ลดขยะอวกาศ !
TNN ช่อง16
13 พฤษภาคม 2568 ( 20:41 )
10

บริษัทสตาร์ทอัพสุดล้ำจากสหราชอาณาจักร แมคไดร์ฟ (Magdrive) กำลังจะพลิกโฉมหน้าของการใช้งานดาวเทียมบนห้วงอวกาศ ด้วยการพัฒนาเครื่องยนต์ขับเคลื่อนดาวเทียมน้ำหนักเบา ที่อาศัยพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงจาก "โลหะ" เพื่อให้ดาวเทียมมีประสิทธิภาพการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

หัวใจสำคัญของนวัตกรรมนี้คือเครื่องยนต์ที่มีชื่อว่า โร้ค (Rogue) ซึ่งมีน้ำหนักเบาเพียง 2.5 กิโลกรัม ภายในใช้ระบบขับเคลื่อนพลาสมาแบบพัลส์จากเชื้อเพลิงโลหะแข็ง โดยจะใช้การดึงพลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ สะสมไว้ในตัวเก็บประจุยิ่งยวด ก่อนที่จะปล่อยประจุเพื่อเปลี่ยนเชื้อเพลิงโลหะให้กลายเป็นพลาสมาพลังงานสูง ซึ่งถูกขับออกมาเป็นพัลส์ที่ควบคุมทิศทางได้


เครื่องยนต์ โร้ค (Rogue) ได้รับการออกแบบมาเพื่อยกระดับขีดความสามารถของดาวเทียมขนาดเล็ก ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนที่เข้าใกล้ดาวเทียมดวงอื่น หรือการเข้าสู่วงโคจรต่ำของโลก (LEO) ด้วยพละกำลังและความแม่นยำ พร้อมทั้งมีแหล่งเชื้อเพลิงที่สามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าเชื้อเพลิงเหลวแบบเดิม


ทั้งนี้บริษัท แมคไดร์ฟ (Magdrive) เชื่อมั่นว่า เทคโนโลยีเครื่องยนต์ขับเคลื่อนดาวเทียมนี้จะปลดล็อกศักยภาพใหม่ ๆ ให้กับบริการดาวเทียมในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้สามารถเดินทางไปยังวงโคจรที่ไม่เคยเข้าถึงได้มาก่อน และยังเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งวงการวิทยาศาสตร์ การวิจัย และอุตสาหกรรมการผลิตในอวกาศอีกด้วย


โดยในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ บริษัทเตรียมที่จะทำการทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในสภาพแวดล้อมจริงบนวงโคจร ภายใต้ภารกิจชื่อว่า ดี-ออร์บิต (D-Orbit) ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการพิสูจน์ความสามารถของเครื่องยนต์ขับเคลื่อนแรงขับสูงที่ใช้เชื้อเพลิงโลหะในสภาวะไร้น้ำหนัก

ทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัท ยังเล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบของการใช้โลหะเป็นเชื้อเพลิง เนื่องจากเป็นทรัพยากรที่มีอยู่มากมายทั้งบนโลกและในอวกาศ อีกทั้งดาวเทียมแต่ละดวงก็ไม่ได้ต้องการปริมาณโลหะมากนัก ซึ่งในอนาคตอาจมีการนำขยะอวกาศมารีไซเคิลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงดาวเทียมได้อีกด้วย


ส่วนแผนการในระยะยาว บริษัทกำลังมุ่งมั่นพัฒนาเครื่องยนต์ขับเคลื่อนที่มีพละกำลังมากยิ่งขึ้น และสามารถเติมเชื้อเพลิงได้โดยตรงในอวกาศ ซึ่งจะนำไปสู่ขีดความสามารถในการขับเคลื่อนที่ยาวนานและไร้ขีดจำกัดอย่างแท้จริง


ข่าวที่เกี่ยวข้อง