BJCจัดหมื่นล.อัพฐาน ขยายบิ๊กซี-บรรจุภัณฑ์

#BJC #ทันหุ้น – BJC ตั้งเป้ายอดขายปี 2568 โต 1–3% รับแรงหนุนสินค้าใหม่-สุขภาพ แม้ SSSG ทรงตัว แต่ครึ่งปีหลังเดินเกมรุกใช้งบลงทุน 10,000–12,000 ล้านบาท ขยาย-ปรับปรุงสาขา Big C และ Mini BigC พร้อมต่อยอดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ รองรับการเติบโตระยะยาวและดันกำไรเพิ่มขึ้น

                นางสาวจินดาธิป  ศิริคุณากร  ผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า บริษัทมีเป้าหมายยอดขายรวมปี 2568 เติบโตเป็นบวกจากปีก่อนในอัตรา Low Single Digit (+1-3%) สนับสนุนจากซัพพลายเชนสินค้าอุปโภคบริโภคที่มีทิศทางเชิงบวกรวมไปถึง ซัพพลายเชนสินค้าสุขภาพที่มีทิศทางเชิงบวกเช่นกัน โดยสินค้าใหม่เป็นปัจจัยดึงดูดกำลังซื้อได้อย่างชัดเจน และการเพิ่มสินค้าที่ทำกำไรสูงช่วยหนุนทั้งยอดขายและอัตรากำไรในภาพรวม

                ทั้งนี้คาดการอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ทั้งปีนี้คาดเพิ่มขึ้น 10-20% และอัตรากำไรครึ่งปีหลังมีโอกาสมากกว่าครึ่งปีแรกจากต้นทุนวัตถุดิบแพ็กเกจจิ้งที่ลดลง และยอดขายที่ดีในสินค้าสุขภาพ รวมถึงโครงการปรับปรุงกำไรจากการบริหารจัดการ

                ส่วนกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ BigC แม้ครึ่งปีแรกการบริโภคชะลอตัวลง แต่ครึ่งปีหลังบริษัทจะเน้นกลยุทธ์เชิงรุกนำเสนอสินค้าให้ตรงกับความต้องการลูกค้าให้มากขึ้น ขณะที่ Mini BigC ประเมินยอดขายรวมทั้งปีจะโตขึ้นจากปีก่อนได้

*ยอดขาย SSSG ทรงตัว

                นางสาววิชุดา ศิริพลอยประกาย หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์  BJC เปิดเผยว่าภาพรวมการยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในกลุ่ม BigC ปีนี้ บริษัทปรับประมาณการลงเป็นไม่เปลี่ยนแปลง จากเดิมที่เคยคาดการณ์ว่าจะเติบโต Low-to-Middle Single Digit เนื่องจากสินค้าอาหารแห้งเติบโตช้าลงเพราะได้รับผลกระทบเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศที่มีฝนเร็วและปริมาณมาก อีกทั้งยอดขายส่งกลุ่มยาสูบ-สุราลดลง และกลุ่มสินค้าไม่ใช่อาหาร เช่น เครื่องทำความเย็นยอดขายชะลอตัว 

                สำหรับสาขากลุ่มธุรกิจ Mini BigC ปรับเป้าขยายสาขาลงเหลือปีนี้เปิด 100-120 สาขา จากเดิมในช่วงต้นปีที่ตั้งเป้าเปิดปีนี้ 200 สาขา ครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 25 สาขา และบริษัทจะปรับปรุงสาขาเดิมในช่วงครึ่งปีหลังอีกประมาณ 100 สาขา แต่ในอีกด้านบริษัทวางเป้าหมายปีนี้จะปิด 164 สาขา โดยครึ่งปีแรกปิดไปแล้ว 44 สาขา 

*เดินหน้าลงทุนหมื่นล.

                ด้านนางสาวอัญชลี ริมวิริยะทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน BJC เปิดเผยว่า สำหรับปี 2568 บริษัทกำหนดใช้งบลงทุน (Capex) ราว 10,000 - 12,000 ล้านบาท จำแนกเป็นธุรกิจ Big C สัดส่วน 47% ทั้งเพื่อการขยายสาขา-ปรับปรุง  และบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะกระป๋องสัดส่วน 38% เพื่อขยายไลน์การผลิตกระป๋อง

                บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จํากัด (มหาชน) ระบุถึง  BJC ว่า ยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ระหว่างช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ที่ผ่านมายังอ่อนตัวลงเล็กน้อย 3% ผลกระทบจากกำลังซื้อ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร และอีสาน ทั้งนี้ BigC อยู่ระหว่างนำระบบ AI มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพดำเนินงานและเปลี่ยนมาใช้ศูนย์กระจายสินค้าใหม่ที่บางปะอินแทนที่วังน้อยและธัญบุรี คาดทยอยเกิดผลบวกต้นปีหน้า และระยะสั้น SSSG ของ Big C อันอ่อนแอ คาดจะกดดันกำไรไตรมาส 3/2568 แค่ทรงตัวเทียบปีก่อนแต่จะลงจากไตรมาส 2/2568 ตามฤดูกาล  ให้ราคาเป้าหมายพื้นฐานปี 2568 เท่ากับ 23 บาท

                ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด วิเคราะห์ว่า มุมมองเป็นลบเล็กน้อยหลังบริษัทปรับลดเป้าหมายการเติบโตของยอดขายรวมและ GPM ในปี 2568 และเฉพาะธุรกิจ Modern Retail (Big C) คาด SSSG ทำได้เพียงทรงตัวจากเดิมที่จะเติบโตได้ 3-5% และคาดกำไรปกติไตรมาส 3/2568 จะลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและทำได้เพียงทรงตัวเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมปรับราคาเหมาะสมไปใช้ราคาเหมาะสมกลางปี 2569 ที่ 21 บาท