ITTHI รุกโมดิฟายรถสู่อีวี ปักเป้าโกยรายได้ 7 พันล.

#ITTHI #ทันหุ้น - ITTHI ทุ่มเกือบ 100 ล้านบาท ผุดสถานีชาร์จไฟฟ้ากว่า 30 แห่ง ภายในปี 2569 พร้อมตั้งบริษัทย่อยลุยโมดิฟายรถสันดาปเป็น EV เจาะกลุ่มองค์กรใหญ่ หวังมาร์จิ้น 35% ปักเป้าโกยรายได้ 7 พันล้านบาท ภายใน 3 ปี ยันผลงานปีนี้แตะ 1 พันล้านบาท
นายธนเสฏฐ์ อัครบุญญาพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิทธิฤทธิ์ ไนซ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITTHI เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจว่า บริษัทได้วางยุทธศาสตร์การเติบโตเชิงรุกเพื่อรองรับกระแสการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่พุ่งสูง โดยได้จัดตั้งบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท อีโอนิค จำกัด (Eonic) ซึ่งดำเนินธุรกิจโมดิฟายรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% และบริษัท กรีนสแตท จำกัด (Greenstat) ซึ่งเน้นการพัฒนาและขยายเครือข่ายสถานีชาร์จไฟฟ้า EV Station เพื่อรองรับการใช้งานเชิงพาณิชย์และผู้ใช้รถทั่วไป
** ลุยสถานีชาร์จอีวี
สำหรับแผนธุรกิจของ Greenstat บริษัทเตรียมลงทุนเกือบ 100 ล้านบาทในการสร้างสถานีชาร์จแบบ DC Fast Charge รวมทั้งสิ้น 30 แห่ง โดยจะทยอยเปิดให้บริการ 10 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และจะครบ 30 แห่งภายในปีหน้า ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสัญญา MOU มีอายุ 6 ปี (3+3) และคาดว่าจะสามารถคืนทุนได้ภายใน 3 ปี ซึ่งเชื่อว่าจะสร้างความเชื่อมั่นและช่วยดึงดูดผู้ใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน Eonic ก็เดินหน้าธุรกิจโมดิฟายรถยนต์สันดาป โดยเฉพาะรถกระบะที่มีจำนวนจดทะเบียนกว่า 8 ล้านคันทั่วประเทศ มาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ผ่านกระบวนการถอดเครื่องยนต์และระบบน้ำมันออก แล้วติดตั้งมอเตอร์และแบตเตอรีทดแทน ปัจจุบันมีรถที่ผ่านการแปลงสภาพและจดทะเบียนกับกรมการขนส่งแล้วกว่า 20 คัน โดยรถต้นแบบคันแรกผ่านการทดสอบสมรรถนะจริงเกินกว่า 100,000 กิโลเมตร ภายใต้สภาพการใช้งานที่โหดทั้งบรรทุกหนัก 2-3 ตัน การขึ้นเขาสูงชันภูทับเบิก การลุยน้ำท่วม รวมถึงการวิ่งบนถนนลูกรัง ซึ่งพิสูจน์ได้ว่ารถกระบะเก่าที่ผ่านการโมดิฟายสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
** เจาะกลุ่มองค์กรใหญ่
นายธนเสฏฐ์ระบุว่า กลุ่มเป้าหมายสำคัญของ Eonic คือ บรรดาองค์กรขนาดใหญ่ที่มีการใช้รถปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนส่ง สมาคมรถบรรทุก ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ ไปจนถึงหน่วยงานราชการที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และหันมาใช้ยานยนต์พลังงานสะอาด โดยตั้งเป้ากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) ไว้ที่ราว 35% และประเมินกำลังการผลิตไว้ที่ 2,000 คันต่อปีในช่วงแรก ก่อนจะขยายเป็น 5,000 คันต่อปีหากตลาดตอบรับดี ทั้งนี้แม้จะคิดเป็นเพียง 0.1% ของจำนวนรถกระบะจดทะเบียนในประเทศ แต่ก็คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้รวมมากกว่า 7,000 ล้านบาทภายใน 3 ปีข้างหน้า
จุดแข็งของการโมดิฟายรถ คือการช่วยลดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงอย่างมีนัยสำคัญ จากเดิมที่รถใช้น้ำมันมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000-30,000 บาท แต่เมื่อเปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าจะเหลือเพียงหลักพันบาท ทำให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า 10,000 บาทต่อเดือน เงินที่ประหยัดได้ยังสามารถนำมาชำระค่าดัดแปลงรถได้โดยไม่กระทบสภาพคล่อง อีกทั้งยังมีผลบวกจากการได้สิทธิประโยชน์คาร์บอนเครดิต และระบบของรถ EV ยังสามารถตั้งค่าล็อกความเร็ว ลดอุบัติเหตุ เพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุนให้กับองค์กร
** ย้ำเป้าพันล้านบาท
นอกจากธุรกิจ EV แล้ว ธุรกิจดั้งเดิมด้านไฟส่องสว่างก็ยังคงเติบโตแข็งแกร่ง โดยปีนี้บริษัทคาดรายได้แตะ 1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปีก่อนที่ทำได้ 690 ล้านบาท ซึ่งมี Backlog ในมือที่จะส่งมอบได้ทันภายในสิ้นปีนี้ และยังมีงานสำหรับปีหน้าแล้วอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้มั่นใจว่าจะรักษาการเติบโตได้อย่างต่อเนื่องราว 30% ต่อปี หรือคิดเป็นรายได้ราว 1.3 พันล้านบาท ในปีหน้า ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งของพอร์ตธุรกิจควบคู่ไปกับการรุก EV ที่ถือเป็นอนาคตของบริษัท
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
