รีเซต

รัสเซียทดสอบตอร์ปิโดนิวเคลียร์ "โพไซดอน" สำเร็จ อาวุธตอบโต้ทำลายล้างชายฝั่ง

รัสเซียทดสอบตอร์ปิโดนิวเคลียร์ "โพไซดอน" สำเร็จ อาวุธตอบโต้ทำลายล้างชายฝั่ง
TNN ช่อง16
31 ตุลาคม 2568 ( 16:19 )
11

วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เปิดเผยว่ารัสเซียได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบตอร์ปิโดใต้น้ำพลังงานนิวเคลียร์ที่มีขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์รุ่นโพไซดอน (Poseidon) โดยเขากล่าวว่าการทดสอบนี้เป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ และถือเป็นการทดสอบอาวุธทางยุทธศาสตร์ครั้งที่สองของประเทศในรอบไม่ถึงสัปดาห์

โพไซดอน (Poseidon) ถูกกลุ่มประเทศนาโต้ (NATO) เรียกชื่อว่าคานยอน (Kanyon) ซึ่งเป็นอาวุธเชิงตอบโต้ประเภทใหม่ที่เจ้าหน้าที่รัสเซียและสหรัฐฯ อธิบายว่ามีความสามารถในการก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำในมหาสมุทรที่มีกัมมันตรังสีขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้เมืองชายฝั่งทะเลไม่สามารถอยู่อาศัยได้

รายละเอียดการทดสอบและคำยืนยันของปูติน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศว่าการทดสอบเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาโดยให้รายละเอียดที่ชัดเจนที่สุดในรอบหลายปีเกี่ยวกับการทดสอบนี้ว่า

"เป็นครั้งแรกที่เราไม่เพียงแต่ประสบความสำเร็จในการยิงโพไซดอน ด้วยเครื่องยนต์เริ่มต้นจากเรือบรรทุกใต้น้ำเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปิดใช้งานหน่วยพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งอุปกรณ์นี้ได้ทำงานไปช่วงเวลาหนึ่ง"

"ไม่มีสิ่งใดเทียบเคียงได้กับอาวุธนี้ และโพไซดอน (Poseidon) ว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีใครหยุดยั้งได้ เนื่องจากมันเดินทางลึกใต้น้ำได้ถึง 1,000 เมตร ทำให้มันไม่สามารถถูกตรวจจับได้ พลังงานของโพไซดอน (Poseidon) ที่เหนือกว่าพลังของขีปนาวุธข้ามทวีปซาร์มัต (Sarmat) ที่มีความก้าวหน้าสูงสุดของเราเสียอีก" 

ศักยภาพและคุณสมบัติของ Poseidon

โพไซดอน (Poseidon) เป็นตอร์ปิโดอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ รายงานจากสื่อรัสเซียอ้างอิงการประเมินจากแหล่งข้อมูลเปิดระบุว่า ขนาดของตัวตอร์ปิโดมีความยาวประมาณ 20 เมตร และหนัก 100 ตัน

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าอาจบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ถึง 2 เมกะตัน และอาจใช้เครื่องปฏิกรณ์แบบหล่อเย็นด้วยโลหะเหลวเป็นแหล่งพลังงาน โดยนักวิเคราะห์ประเมินว่าโพไซดอน (Poseidon) มีพิสัยการโจมตี 10,000 กิโลเมตร และสามารถเดินทางด้วยความเร็วประมาณ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่รายงานในปี 2018 ระบุว่าสามารถทำความเร็วได้ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 

โพไซดอน (Poseidon) ถูกจัดเป็นอาวุธตอบโต้ (Second-strike) และท้าทายประเภทการควบคุมอาวุธแบบดั้งเดิม เพราะมันรวมระบบขับเคลื่อนนิวเคลียร์เข้ากับกลไกการนำส่งอัตโนมัติที่มิใช่ขีปนาวุธวิถีโคจรหรือขีปนาวุธร่อน

การตอบสนองของสหรัฐฯ

การทดสอบโพไซดอน (Poseidon) ในครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากการทดสอบขีปนาวุธร่อนพลังงานนิวเคลียร์ Burevestnik เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม และการซ้อมรบยิงนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม

โดยรัสเซียกล่าวมาตั้งแต่ปี 2018 ว่าโพไซดอน (Poseidon) และบูเรเวสต์นิก (Burevestnik) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อการตัดสินใจของสหรัฐฯ ที่ถอนตัวจากสนธิสัญญาต่อต้านขีปนาวุธ (Anti-Ballistic Missile Treaty) ในปี 2001 และการขยายตัวของพันธมิตร NATO โดยทางรัสเซียมองว่าการแสดงแสนยานุภาพอาวุธนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ว่ารัสเซียจะไม่ยอมอ่อนข้อต่อแรงกดดันจากชาติตะวันตกเกี่ยวกับสงครามในยูเครน

ทางด้านของผู้สังเกตการณ์ระบุว่า อาวุธเหล่านี้เป็นอาวุธวันโลกาวินาศที่ทรงพลังเกินกว่าจะใช้จริง โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าจังหวะเวลาของการประกาศนี้อาจมีวัตถุประสงค์เพื่อดึงดูดความสนใจของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นการส่งสัญญาณถึงความแข็งแกร่งทางนิวเคลียร์ในขณะที่กองกำลังตามแบบของรัสเซียกำลังเผชิญแรงกดดันในยูเครน

การประกาศของรัสเซียได้กระตุ้นให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งการให้กระทรวงสงคราม (Department of War) ที่เพิ่งเปลี่ยนชื่อใหม่ให้ กลับมาเริ่มการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง ซึ่งเป็นการยุติการหยุดยิงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ที่ดำเนินมา 33 ปี

โดยให้เหตุผลว่าการเคลื่อนไหวนี้จำเป็นเพื่อรักษาความเท่าเทียมกับโครงการอาวุธในรัสเซียและจีน แม้จะเป็นการท้าทายสนธิสัญญาห้ามการทดสอบนิวเคลียร์อย่างครอบคลุม (CTBT) ซึ่งสหรัฐฯ ลงนามแต่ไม่เคยให้สัตยาบัน 

ก่อนหน้านี้ รัสเซียเองก็ได้ยกเลิกการให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาห้ามการทดสอบนิวเคลียร์อย่างครอบคลุม (CTBT) ในเดือนตุลาคม 2023 แต่ระบุว่าจะคงการระงับการทดสอบไว้ เว้นแต่สหรัฐฯ จะเริ่มการทดสอบก่อน

นักวิเคราะห์แสดงความเห็นว่า การที่ทั้งสองประเทศต่างแสดงท่าทีรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เกี่ยวกับนิวเคลียร์นั้นเป็นภัยต่อเสถียรภาพ และเพิ่มโอกาสในการเกิดสงครามนิวเคลียร์ 

อย่างไรก็ตาม โฆษกเครมลิน (Dmitry Peskov) ของรัสเซีย ได้ตั้งคำถามว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่ โดยยืนยันว่าการทดสอบของรัสเซียนั้นไม่สามารถตีความได้ว่าเป็นการทดสอบนิวเคลียร์

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง