บิ๊ก YGG ยันถือหุ้น 41% ย้ำพื้นฐานแข็งแกร่ง
#YGG #ทันหุ้น - “ธนัช จุวิวัฒน์” บอสใหญ่ YGG ยืนยันยังเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่กว่า 41% พร้อมสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน ย้ำบริษัทเดินหน้าบริหารงานตามแผนยุทธศาสตร์ สร้างพื้นฐานแข็งแกร่ง เติบโตอย่างมีศักยภาพ คาดผลประกอบการเติบโตตามเป้าหมาย
นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG กล่าวว่า ปัจจุบันตนยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ถือหุ้นครบสัดส่วนที่ 41.14% และอยากให้ผู้ถือหุ้น รวมทั้งนักลงทุนมั่นใจ ในการบริหารงานของกลุ่มผู้บริหารของบริษัท
** พื้นฐานแข็งแกร่ง
โดย YGG ยังคงดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท มีการขยายงานในทุกส่วนของธุรกิจอย่างชัดเจนและต่อเนื่อง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรจากต่างประเทศที่มีศักยภาพ สามารถต่อยอดธุรกิจของบริษัทได้ เพื่อให้บริษัทมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมั่นใจว่าผลประกอบการของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ดี เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วาง
ทั้งนี้บริษัทได้ประกาศแผนการจับมือกับพันธมิตรต่างชาติ เพื่อผลักดันธุรกิจในส่วนของแอนิเมชั่นและเกม รวมทั้งการขยายในส่วนของภาพยนตร์ฮอลลีวูดด้วยโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ซึ่งล่าสุดได้จับมือกับพันธมิตรจากประเทศจีน เพื่อร่วมกันผลิตผลงานด้านแอนิเมชั่น ในส่วนของงานเกม ในปีนี้บริษัทมีแผนทยอยออกเกมใหม่ ด้านภาพยนตร์ที่ร่วมผลิตภาพฮอลลีวูด Home Sweet Home Rebirth กับพันธมิตรต่างประเทศ ขณะนี้ขบวนการผลิตใกล้เสร็จสมบูรณ์ และมั่นใจกระแสตอบรับดี คาดว่าจะสามารถสรุปผู้ซื้อรายใหญ่จากฝั่งอเมริกาได้ภายในเร็วๆ นี้
“ปีนี้มีการขยายงานในทุกส่วน เรามั่นใจผลประกอบการเป็นไปตามเป้าหมาย YGG มีแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน แนวทางของการบริหารมุ่งเน้นให้บริษัทแข็งแกร่ง เติบโตในระยะยาว จึงอยากให้นักลงทุน ผู้ถือหุ้น มีความมั่นใจ เชื่อมั่นในศักยภาพของบริษัท” นายธนัช กล่าว
** เป้า 10.50 บาท
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า YGG มีประเด็นสำคัญ ตลาดมีความกังวลหุ้นที่ถูกวางเป็นหลักประกันในบัญชีมาร์จิ้นในระดับสูง หลังมีหุ้นบางหลักทรัพย์ปรับตัวลงแรงผิดปกติ ทำให้เกิดความกังวลกับ YGG เนื่องจากมีจำนวนหุ้นถูกใช้เป็นหลักประกันตามข้อมูล ตลท. เดือน เมษายน 2567 ที่ 46% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด (ลดลงจาก53% ในเดือน ก.พ.)
และลงนามสัญญาความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท ฟันเทค จำกัด เป็นผู้ประกอบการด้าน Entertainment ขนาดใหญ่ของจีน ซึ่งมีความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ร่วมกับ Platform หลักในจีนเช่น Tencent และAlibaba ทั้งนี้การร่วมมือกับ YGG เพื่อร่วมกันผลิตภาพยนตร์ Animation ทั้งหมด 5 เรื่อง ใช้เวลา 5ปี งบประมาณลงทุน 450 ล้านหยวนหรือราว 2.5 พันล้านบาท
ฝ่ายวิเคราะห์มองว่าราคาหุ้นอาจมีความผันผวนจากประเด็นที่ถูกแชร์ใน Social Media เกี่ยวกับ
สัดส่วนหุ้นที่ถูกวางเป็นหลักประกันสูง ซึ่งเกิดจากความเสี่ยงที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่หากพิจารณาในเชิง พื้นฐานกลับมีมุมมองบวกมากขึ้น หลังประกาศความร่วมมือดังกล่าวทำให้มีรายได้สูงรองรับไปอีก 5 ปี นอกเหนือจากฐานรายได้ปกติของบริษัท และคาดว่าจะมีความร่วมมืออื่นต่อเนื่อง หากนักลงทุนมีสถานะและยังเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐาน และเข้าใจธุรกิจ แนะนำ “ถือ” และรอถัวเฉลี่ยเมื่อราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานได้ สำหรับผู้ไม่มีสถานะ แนะนำสะสม เมื่อราคาหุ้นเริ่มสร้างฐานได้ และแรง Panic Sell ลดลง มองราคาเหมาะสม 10.50 บาท