รีเซต

ตาลายไปหน่อย! ขาย NFT จากราคา 300,000 เหลือ 3,000 เพราะดันใส่จุดทศนิยมผิด

ตาลายไปหน่อย! ขาย NFT จากราคา 300,000 เหลือ 3,000 เพราะดันใส่จุดทศนิยมผิด
TNN ช่อง16
14 ธันวาคม 2564 ( 12:02 )
613
ตาลายไปหน่อย! ขาย NFT จากราคา 300,000 เหลือ 3,000 เพราะดันใส่จุดทศนิยมผิด

เลขจำนวนเยอะ ๆ บางทีก็อาจจะทำให้ตาลายกันบ้าง ล่าสุดมีข่าวคราวแสนโชคร้ายของเจ้าของภาพ NFT คนหนึ่ง ที่ดันขายภาพ NFT ชื่อ Bored Ape ในราคาเพียง 3,000 ดอลลาร์ (100,260 บาท) แทนที่จะเป็น 300,000 ดอลลาร์ (10,026,000 บาท) เพียงเพราะแค่วางจุดทศนิยมผิดที่!


โดยคนโชคร้ายในครั้งนี้ก็คือ Max (แม็กซ์) หรือที่รู้จักกันในชื่อวงการ NFT ว่า maxnaut ซึ่งเดิมทีเขาต้องการจะขายภาพ NFT ในราคา 75 อีเธอร์ (ประมาณ 300,000 ดอลลาร์ หรือ 100,260 บาท) แต่บังเอิญพิมพ์เป็น 0.75 อีเธอร์แทน (ประมาณ 3,000 ดอลลาร์ หรือ 10,026,000 บาท) และก่อนที่จะแก้ไขได้ทัน ผลงานก็ดันอัปโหลดขึ้นบนแพลตฟอร์ม OpenSea และถูกซื้อไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าอาจจะมาจากการที่มีบอทใน OpenSea ที่มีคนตั้งโปรแกรมให้ค้นหาผลงานที่ตีราคาต่ำและซื้อไว้ในทันที ฉะนั้นในกรณีนี้ พลาดปุ๊บ ก็ขายได้ปั๊บ


ความผิดพลาดคล้ายกันนี้มีคำเรียกในภาษาอังกฤษว่า “fat-finger errors” หรืออย่างที่คนไทยเราอาจจะบ่นว่า "นิ้วอ้วนไปโดนปุ่มอีกแล้ว" พิมพ์ผิด พิมพ์ตก เพราะนิ้วไปโดนปุ่มเป็นเรื่องปกติ ซึ่งในวงการการเงิน ความผิดพลาดแบบนี้มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เช่นกรณีหนึ่งที่พนักงานธนาคารของ  Deutsche Bank เผลอส่งเงินเข้าบัญชีลูกค้าไป 6 พันล้านดอลลาร์ โชคดีที่ว่าในวันถัดไปธนาคารยังทำเรื่องแก้ไขได้ทัน แต่ในกรณีของ Max (แม็กซ์) ไม่เป็นแบบนั้น ขายแล้วก็จบกันไป


 

ภาพจาก newyorker.com

 สำหรับผลงานของ Max (แม็กซ์) ที่โดดเด่น เป็นคอลเลคชันลิงทำหน้าเบื่อ จับคู่กับไอเท็มของตกแต่งต่าง ๆ เช่น ลิงทำหน้าเบื่อคู่กับแว่นตา ลิงทำหน้าเบื่อมีตาเลเซอร์ ลิงทำหน้าเบื่อใส่แว่นกัดแดด ฯลฯ แม็กซ์มีภาพลิงหน้าเบื่อ Bored Ape นี้มากกว่า 10,000 ตัว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับจากบรรดานักสะสมที่เห็นคุณค่า และอยากสร้างกำไรจาก NFT โดยคอลเลกชันนี้ยังมีนักสะสมคนดังอย่าง Jimmy Fallon และ Steph Curry 




ถึงแม้จะสูญเสียเงินจำนวนมากไปในพริบตา แต่เจ้าตัวก็ยังคงก้าวต่อไปข้างหน้า ด้วยการออกมาทวิตแซวตัวเอง ปนให้กำลังใจว่า “แม้บางครั้งคนเราจะทำอะไรพลาดไปบ้าง แต่การที่เราจะไปจดจ่อกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นแล้วและแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็เหมือนกับการทำร้ายตัวเองซ้ำสอง” 



ข่าวจาก

theverge

ภาพจาก

newyorker

ข่าวที่เกี่ยวข้อง