PJW ผนึกยักษ์ใหญ่ ปตท. รุกการแพทย์เป้าหมื่นล.

#PJW #ทันหุ้น - PJW จับมือ 3 บริษัทใหญ่กลุ่ม ปตท. IRPC และ INNOBIC ศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง คาดเดินเครื่องผลิตปีหน้า พร้อมปักเป้าดันรายได้ 5 ปี ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท ส่วนแนวโน้มธุรกิจปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวช่วงครึ่งปีหลัง
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW เปิดเผยว่า ความร่วมมือกับกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT, บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC และบริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด หรือ INNOBIC เพื่อศึกษาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองว่า การร่วมกันครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นการต่อยอดธุรกิจภายใต้ Strategic Partner โดยนำจุดแข็งของทั้ง 3 บริษัท มาช่วยผลักดันในการสร้างมูลค่าการตลาดผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์จากพลาสติกในกลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองให้เพิ่มสูงขึ้น
** ผนึกทัพเสริมแกร่ง
นอกจากนี้ยังร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เติบโตไปพร้อมกัน ภายใต้การแสวงหาโอกาสในการลงทุนร่วมกันในธุรกิจผลิตและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในทางการแพทย์ เบื้องต้นคาดว่าจะมีสินค้าบางตัวแล้วเสร็จภายในปลายปี 2565 โดยจะเริ่มจากการสั่งผลิต (OEM) สินค้าเพื่อนำมาจำหน่ายก่อน หลังจากนั้นจะมีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) เพื่อก่อสร้างโรงงานและลงทุนเครื่องจักร ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเดินเครื่องผลิตภายในครึ่งหลังของปี 2566
พร้อมกันนี้ในกรอบ MOU นอกจากจะพัฒนาสินค้าด้วยตัวเองแล้ว ยังจะมีการศึกษาและมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการ เพื่อจะนำองค์ความรู้ต่างๆ เข้ามาช่วยสนับสนุนและเร่งรัดการเติบโตของบริษัทไปพร้อมกันด้วย
ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายภายในระยะ 3-5 ปีจากนี้ ผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์จะสามารถสร้างยอดขายให้กับ PJW ได้ไม่น้อยกว่า 3,000-5,000 ล้านบาท ซึ่งมองว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนให้รายได้รวมภายใน 5 ปีข้างหน้าของ PJW แตะที่ระดับมากกว่า 10,000 ล้านบาท และด้วยผลิตภัณฑ์วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม ทำให้คาดว่าอาจเข้ามาหนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิของ PJW ใน 5 ปีจากนี้ยืนอยู่ที่เหนือระดับ 20% และ 9% ตามลำดับได้ จากสิ้นปี 2564 ที่ระดับ 18.48% และ 5.49% ตามลำดับ อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการจำหน่ายในปี 2566 เป็นต้นไป
** ครึ่งปีหลังฟื้นตัว
นายวิวรรธน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภาพรวมธุรกิจของ PJW ในปี 2565 มองว่าผลงานอาจยังไม่ดีมากนัก เพราะยังคงมีปัญหาจากปัจจัยชิ้นส่วนยานยนต์ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนของชิป ตลอดจนการล็อกดาวน์ของประเทศจีน ทำให้บริษัทได้รับคำสั่งซื้อจากลูกค้าในจีนลดลง แต่ด้วยสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายแล้วในปัจจุบัน ทำให้เริ่มกลับมาเห็นสัญญาฟื้นตัวจากกลุ่มน้ำมันเครื่อง นมและนมเปรี้ยวที่มากขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว และคาดว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้จะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้นตามลำดับได้ และคาดว่าจะกลับมามีการเติบโตได้อย่างมีนัยยะสำคัญในปี 2566
ส่วนการ MOU กับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการวิจัยและพัฒนาเปลือกแบตเตอรี ระบบหล่อเย็นสำหรับแบตเตอรี และระบบหล่อเย็นสำหรับมอเตอร์ขับเคลื่อน ด้วยพลาสติกคุณภาพสูงที่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถช่วยลดอุณหภูมิการทำงานของแบตเตอรีให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม (20-40 องศาเซลเซียส) และทนปฏิกิริยาเคมีได้ดี เข้ามาทดแทนส่วนประกอบของรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์ (Commercial Vehicle) ในช่วงที่ผ่านมานั้น เบื้องต้นคาดว่าจะได้เห็นความชัดเจนในช่วงปลายปี 2565 และเชื่อว่าการร่วมมือดังกล่าวจะเข้ามาสนับสนุนผลประกอบการของ PJW ในปี 2566 ได้อย่างมีนัยสำคัญ
** เพิ่มมูลค่าเพิ่ม
นายบุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเชีย) จำกัด หรือ INNOBIC กล่าวว่า สำหรับการร่วมกันครั้งนี้ เป็นการสร้างการผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ของอาเซียนในไทย สามารถสร้างความแข็งแกร่งและเพิ่มมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมไทย
ทั้งนี้ จะศึกษาเพื่อผลิตสินค้าที่มีความต้องการของตลาด แต่ยังไม่มีนวัตกรรมที่เหมาะสมและยังไม่ได้ผลิตในประเทศในปัจจุบัน ซึ่งการร่วมมือกันครั้งนี้จะเป็นรากฐานและเป็นตัวอย่างที่สำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมทางการแพทย์ของไทยต่อไปในอนาคต บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันนโยบายการพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่ม NEW S Curve และการเป็น Medical Hub ของรัฐบาล ซึ่งอุตสาหกรรมวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ถือเป็น New S Curve ที่สำคัญของไทย