รีเซต

ภาคธุรกิจหวังไทยเที่ยวไทย ปลุกหัวหิน-ชะอำฟื้นตัว จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

ภาคธุรกิจหวังไทยเที่ยวไทย ปลุกหัวหิน-ชะอำฟื้นตัว จากโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
มติชน
30 มกราคม 2565 ( 10:29 )
72

ข่าววันนี้ 30 มกราคม นายอุดม ศรีมหาโชตะ กรรมการสมาคมโรงแรมไทย ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวพักผ่อนตากอากาศในพื้นที่ อ.หัวหิน และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ยังมีความหวังจากกลุ่มนักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก ดังนั้นขอให้รัฐบาลเร่งเปิดจองโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อให้นักท่องเที่ยวใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เพื่อกระตุ้นตลาดไทยเที่ยวไทย เช่นเดียวกับช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2564 ทำให้พื้นที่หัวหิน-ชะอำมีกระแสตอบรับที่ดีมาก และหวังว่าโครงการเราเที่ยวด้วยกันน่ากระตุ้นไทยเที่ยวไทยไปถึงไฮซีซั่นเดือนเมษายน และพฤษภาคม 2565

 

นายอุดม กล่าวว่า สำหรับการเปิดเทสก์แอนด์โกในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 อาจจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเดินทางเข้ามา แต่คงไม่มากเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งยอมรับว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติมาหัวหิน-ชะอำ ต่ำกว่าเป้าหมาย และการเปิดให้เข้าประเทศอีกครั้ง กระแสตอบรับก็น่าจะไม่คึกคัก เนื่องจากปัญหาส่วนหนึ่งเกิดจากภาครัฐได้วางเงื่อนไขจากการจองที่พัก การตรวจหาเชื้อโควิด-19 หลายครั้ง นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอาจมองว่า มีความยุ่งยาก และที่สำคัญที่สุดขอให้ภาครัฐมีมาตรการติดตามการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติให้รัดกุมมากกว่าในอดีต หลังจากพบว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ปฏิเสธไม่โหลดแอพพลิเคชั่นหมอชนะ ซึ่งทำให้มีปัญหาในการติดตามหากมีผู้เชื้อโควิด 19ในไทม์ไลน์

 

“ผู้ประกอบการหวังว่า โครงการไทยเที่ยวไทยเฟสต่อไปอีก 2 ล้านสิทธิ หลังจากเดือนกุมภาพันธ์ 2565จะทำให้การท่องเที่ยวในประเทศคึกคักมากขึ้น หรือหากรัฐบาลจะกระตุ้นให้ต่อเนื่องก็ต้องมีโครงการนี้ต่อเนื่องถึงสิ้นปี 2565 ขณะที่รายได้การท่องเที่ยวของหัวหิน-ชะอำ มีปัญหาเหมือนดิ่งเหวในเดือนมกราคม หลังจากรัฐบาลหยุดเทสก์แอนด์โก มีปัญหาจากภาครัฐระบุว่าการติดเชื้อกลายพันธ์จะขยายวงกว้าง มีกระแสข่าวว่าจะไม่ให้ข้าราชการ หรือภาคเอกชนเดินทางออกนอกพื้นที่ หรือจะต้องถูกกักตัวภายหลัวเดินทางกลับเข้ามาในจังหวัด จากเงื่อนไขนี้ทำให้โรงแรมจำนวนมากถูกยกเลิกจองห้องพัก” นายอุดม กล่าว

 

ขณะที่ นายกรด โรจนเสถียร ประธานโครงการหัวหินรีชาร์ท ผู้บริหารบริษัท ชีวาศรม อินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ รีสอร์ท จำกัด ผู้บริหารรีสอร์ทเพื่อสุขภาพระดับโลก กล่าวว่า หลังจากนี้ประเทศไทยต้องเตรียมการสร้างบุคลากรที่ตอบโจทย์กระแสการท่องเที่ยวที่เป็นเทรนด์ด้านสุขภาพและความงาม หลังจากมีตัวเลขระบุการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มอุตสาหกรรมด้านสปาถึงปี 2568 จะอัตราการเติบโต 17 % ต่อปี มีรายได้กว่า 150.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ล่าสุดชีวาศรม หัวหิน โดยชีวาศรม อคาเดมี ได้ร่วมกับพันธมิตรด้านการศึกษา มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สร้างหลักสูตรบูรณาการส่งเสริมสุขภาพ และความงาม เพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพให้ภาคอุตสาหกรรมธุรกิจการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงเดินทางเข้ามาในประเทศในอนาคตอันใกล้นี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง