กลุ่มเดินเรือปรับตัวขึ้นตอบรับดัชนีค่าระวางพลิกฟื้นในรอบ 9 วันที่ผ่านมา
TNN Wealth
10 มิถุนายน 2564 ( 13:54 )
98
ข่าววันนี้ หุ้น TTA ปรับขึ้น 1.69% มาอยู่ที่ 18.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท เมื่อเวลา 10.46 น. โดยเปิดตลาดที่ 18.10 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 18.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 17.80 บาท
หุ้น PSL ปรับขึ้น 4.23% มาอยู่ที่ 19.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท เมื่อเวลา 10.46 น. โดยเปิดตลาดที่ 19.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 19.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 19.30 บาท
นายสยาม ติยานนท์ นักวิเคราะห์การลงทุนด้านหลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ราคาหุ้นกลุ่มเดินเรือที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ คาดมาจากดัชนีค่าระวางเรือปิดทำการวันล่าสุดที่ 2,481.00 จุด เพิ่มขึ้น 61.00 จุด ซึ่งเป็นการบวกวันแรกในรอบ 9 วันที่ผ่านมา
ขณะที่ยังคงแนะนำซื้อหุ้น บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 19.40 บาท/หุ้น จากคาดการณ์ดัชนี BSI ในไตรมาส 2/64 ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่อยู่ที่ 42% และช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ 330% จากฤดูกาลและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ภายหลังจากประเทศขนาดใหญ่มีสถานการณ์ที่ดีขึ้นจากโควิด-19 ทั้งสหรัฐฯ จีน และยุโรป อีกทั้งยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเม็ดเงินมหาศาล ก็เป็นตัวเร่งต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมกันนี้ยังอยู่ระหว่างการปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง(PSL) จากเดิมให้ราคาไว้ที่ 16.1 บาท/หุ้น ตามค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้น
บล.เคทีบีเอสที ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนะนำ “ซื้อ” หุ้น PSL ที่ราคาเป้าหมาย 24 บาท อิง PER ปี 2564 ที่ 25 เท่า โดยชอบหุ้น PSL จาก 2 เหตุผลหลัก คือ 1) แนวโน้มผลการดำเนินงานที่พลิกกลับมามีกำไรและเติบโตดีมากในปี 2564 รวมทั้ง 2) สัดส่วนรายได้ 99% มาจากธุรกิจเดินเรือและสัดส่วนของกองเรือเพียง 17% ได้ทำสัญญา fixed contract ระยะเกิน 1 ปีซึ่งจะทำให้ PSL ได้ประโยชน์โดยตรงจากดัชนี Baltic Supramax Index (BSI) ที่ปรับขึ้นมาทำสถิติสูงสุดใหม่ในรอบ 10 ปี อย่างต่อเนื่อง หนุนโดย global demand ที่คาดโต 4% เมื่อเทียบจากปีก่อน สูงกว่า global supply ของกองเรือที่จะโตเพียง 1.5% เมื่อเทียบจากปีก่อนในปี 2564 ( order book ต่ำสุดในทศวรรษ)
ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิปี 2564 จะพลิกกลับมากำไรที่ 1,570 ล้านบาท (จากขาดทุน 1,300 ล้านบาทในปี 2563) จากรายได้เติบโต 67% เมื่อเทียบจากปีก่อน หนุนโดยค่าระวางที่ปรับตัวขึ้น 2) GPM คาดปรับตัวดีขึ้นเป็น 39.1% (ใกล้เคียงปี 2553 ที่ดัชนี BSI Index อยู่ที่ระดับ 2,000-3,000 จุด)