กษัตริย์ซาอุฯ ปลดเจ้าหน้าที่กลาโหม รวม 6 คน

เจ้าหน้าที่ฝ่ายกลาโหมของทางการซาอุดีอาระเบีย 6 คน รวมถึงเจ้าชาย 2 พระองค์ ถูกปลดจากตำแหน่ง ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยชี้ว่าเป็นความพยายามขจัดอุปสรรคขัดขวางการครองอำนาจของมกุฎราชกุมาร

ทางการซาอุดีอาระเบียเผยแพร่พระราชกฤษฎีการะบุว่าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ทรงปลดเจ้าชายฟาฮัด บิน เตอร์กี จากตำแหน่งผู้บัญชาการกองกำลังร่วมในกองกำลังผสมที่นำโดยซาอุดีอาระเบียในเยเมน และปลดเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ฟาฮัด พระโอรสของพระองค์ จากการเป็นรองผู้ว่าการที่ดูแลภูมิภาคตะวันออกด้วย

พระราชกฤษฎีกายังระบุว่าเจ้าหน้าที่ทางการอีก 4 คน ถูกกระทรวงกลาโหมดำเนินการสอบสวนฐาน "มีพฤติกรรมทางการเงินต้องสงสัย"

เป็นที่ทราบกันว่าเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมาร พระราชโอรสของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน ทรงเป็นผู้ปกครองซาอุฯ ในทางพฤตินัย และทรงเป็นหัวหอกสำคัญในการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตที่มีการกล่าวหาต่อรัฐบาล

อย่างไรก็ตามฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่าการจับกุมเจ้าหน้าที่ระดับสูง เป็นความพยายามกำจัดอุปสรรคขัดขวางการครองอำนาจของเจ้าชายโมฮัมเหม็ด

ก่อนหน้านี้ในปีนี้ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล (Wall Street Journal) รายงานว่า สมาชิกอาวุโสของราชวงศ์ 3 พระองค์ ทรงถูกจับกุม ซึ่งรวมถึงเจ้าชายอาห์เหม็ด บิน อับดุลอาซิซ พระอนุชาของสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน และเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ อดีตมกุฎราชกุมารด้วย

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่ตกเป็นเป้าวิพากษ์วิจารณ์มากที่สุดเกิดขึ้นเมื่อปี 2017 ในครั้งนั้นสมาชิกราชวงศ์ซาอุฯ หลายสิบพระองค์ รัฐมนตรี และนักธุรกิจ ถูกควบคุมตัวไว้ที่โรงแรมริตซ์-คาร์ลตัน ในกรุงริยาด

ผู้ที่ถูกควบคุมตัวหลายคนได้รับการปล่อยตัวหลังการไกล่เกลี่ยและตกลงทางการเงินกับทางการซาอุฯ มูลค่ารวม 106.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.29 ล้านล้านบาท

หลังจากทรงก้าวขึ้นมามีอำนาจในปี 2016 เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พระชนมายุ 35 พรรษา ทรงได้รับการยกย่องจากนานาประเทศเมื่อทรงรับปากว่าจะปฏิรูปทางสังคมและเศรษฐกิจหลายอย่างในซาอุฯ ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีความอนุรักษ์นิยมสูง

• กษัตริย์ซาอุดีอาระเบียตั้งพระราชโอรสเป็นมกุฎราชกุมาร
• 5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับมกุฎราชกุมารองค์ใหม่ของซาอุฯ
• มกุฎราชกุมารซาอุฯ ถูกกล่าวหาว่าส่งทีมลอบสังหารอดีต จนท. ข่าวกรองในแคนาดา
• กษัตริย์ซาอุฯ สั่งจับเจ้าชายหลังต้องสงสัยเป็นคนในคลิปทุบตีผู้คน

อย่างไรก็ตาม พระองค์ทรงพัวพันกับเรื่องอื้อฉาวหลายเรื่อง รวมถึงการสังหารนายจามาล คาชูจกิ นักข่าวซาอุฯ ที่สถานกงสุลซาอุฯ ในนครอิสตันบูล เมื่อปี 2018 และข้อกล่าวหาว่ามีการวางแผนฆาตกรรมอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของซาอุฯ คนหนึ่ง ในแคนาดา

พระองค์ยังทรงถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องความขัดแย้งในเยเมนซึ่ง ซาอุฯ หนุนหลังกองกำลังที่สนับสนุนรัฐบาลเยเมน กับยังมีประเด็นเรื่องการปฏิบัติต่อนักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีหลายคนอย่างรุนแรง ทั้งที่มีการยกเลิกข้อจำกัดหลายอย่าง รวมถึงการอนุญาตให้ผู้หญิงขับรถได้ด้วย