ลุยจับแผงแสบ แอบสวมรอย ทุเรียนป่าละอู หลอกขายนักท่องเที่ยว
ประจวบฯ เอาจริง ลุยตรวจแผงขาย แอบสวมรอย ทุเรียนป่าละอู หลอกขายนักท่องเที่ยว ในราคาแพง เตรียมถอดใบอนุญาต GI ทุเรียนป่าละอู
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2565 ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายพลกฤต พวงวลัยสิน นายอำเภอหัวหิน นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอ นายวันชัย นิลวงศ์ เกษตรจังหวัด น.ส.ภัสศรัณย์ ชำนาญกิจ พาณิชย์จังหวัด นายวัชระ กำพร นายกอบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ตำรวจสภ.หัวหิน และอส.
ลงพื้นที่ตรวจร้านค้าจำหน่ายทุเรียน บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 37 (บายพาสชะอำ-ปราณบุรี) คาบเกี่ยว ต.ทับใต้ และต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน หลังได้รับการร้องเรียนจากนักท่องเที่ยวว่าได้ซื้อทุเรียนป่าละอูจากร้านค้าริมถนนบายพาส แต่กลับได้ทุเรียนอ่อนไม่มีคุณภาพ
จากการตรวจสอบพบป้ายร้านค้าระบุว่าจำหน่ายทุเรียนป่าละอู พร้อมติดสติ๊กเกอร์ระบุว่าเป็นทุเรียนในโครงการพระราชดำริ หมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ป่าเด็ง-ป่าละอู อีกด้วย จึงได้ตรวจสอบไปยังสวนทุเรียนป่าละอู ทราบว่าในช่วงนี้ยังไม่มีผลผลิตทุเรียนป่าละอูออกมาจำหน่าย มีเพียงทุเรียนหลงฤดูที่ออกมาก่อนหน้านี้สวนละไม่กี่ลูกเท่านั้น
การกระทำดังกล่าวจึงเข้าข่ายการหลอกลวงนำทุเรียนจากแหล่งผลิตอื่นมาติดสติ๊กเกอร์สวมรอยจำหน่ายว่าเป็นทุเรียนป่าละอู ซึ่งเป็นทุเรียนหมอนทอง GI ชื่อดังของต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน และเป็นที่นิยมของผู้บริโภค เพราะมีรสชาติหวานมัน กลิ่นไม่ฉุน เปลือกบาง เม็ดลีบ เนื้อเยอะ
โดยในวันนี้ตรวจสอบพบผู้กระทำความผิด 1 ร้าน ขณะที่ร้านค้าอื่นอีก 7 ร้าน บนถนนบายพาส คาดว่าจะรู้ตัวจึงปิดร้านทั้งหมด จึงเตรียมแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีตามประกาศของจ.ประจวบคีรีขันธ์ เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพ ฤดูกาลผลิต ปี 2565
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 271 ผู้ใดขายของโดยหลอกลวงด้วยประการใด ๆ ให้ผู้ซื้อหลงเชื้อในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ หรือ ปริมาณแห่งของนั้น อันเป็นเท้จ ถ้ากระทำดังกล่าวนั้น ไม่เป็นความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ผู้ประกอบการควรซื่อสัตย์กับลูกค้า หากนำทุเรียนจากแหล่งใดมาจำหน่ายให้บอกตามจริง จะขายราคาเท่าไหร่ คงไม่มีปัญหา เพราะขึ้นอยู่กับความพึ่งพอใจของผู้บริโภค แต่กรณีนี้เข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภค ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ทุเรียนป่าละอู ยอมจ่ายในราคาสูงเพื่อให้ได้ของแท้
จึงฝากเตือนไปถึงร้านค้าที่ฉวยโอกาสสวมชื่อทุเรียนป่าละอูให้เลิกพฤติกรรม เพราะไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่เสียไป กว่าจะพัฒนาจนได้สัญญาลักษณ์ GI ทุเรียนป่าละอูไม่ใช่เรื่องง่าย ทางจ.ประจวบฯ และทุกจังหวัดทั่วประเทศ จริงจังกับกรณีการจำหน่ายทุเรียนอ่อนอย่างมาก เพราะเข้าข่ายหลอกลวงผู้บริโภคมีโทษทางกฎหมายชัดเจน” ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ กล่าว