รีเซต

ศบค.ไม่เคาะจัดพื้นที่ตามสี! มอบผู้ว่าฯ สั่งปิดตามความเสี่ยง 3 ระดับ

ศบค.ไม่เคาะจัดพื้นที่ตามสี! มอบผู้ว่าฯ สั่งปิดตามความเสี่ยง 3 ระดับ
มติชน
7 เมษายน 2564 ( 13:24 )
60

 

ข่าววันนี้ 7 เมษายน พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า ศบค.ชุดเล็ก ได้ทบทวนข้อเสนอจากทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในการปรับพื้นที่เป็นสีตามความเสี่ยง เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อข้ามจังหวัด

 

 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีข้อสรุปว่า ตามมาตรการที่มีอยู่เดิมตามข้อกำหนดออกความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงมอบอำนาจให้ สธ.หารือร่วมกับกระทรวงมหาดไทย หาข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพและสามารถควบคุมการระบาดให้ดีที่สุด ดังนั้น ยังไม่มีการปรับพื้นที่สีตามที่ สธ.เสนอ แต่ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงมหาดไทย จะหารือเรื่องนี้กันอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง

 

 

“ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็กได้ข้อสรุปว่าให้กลับไปที่ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งมีอยู่แล้ว ให้แต่ละพื้นที่พิจารณาการจัดการลงรายละเอียดไปถึงระดับอำเภอ หากพื้นที่มีความเห็นอย่างไร สามารถดำเนินการได้ตามความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัด” พญ.อภิสมัย กล่าว

 

 

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า โดยให้ยึดมาตรการตามที่ ศบค.ได้ออกประกาศไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด มีอำนาจพิจารณาปิดสถานที่ชั่วคราวได้ ในกรณีที่พบผู้ติดเชื้อในสถานประกอบการ หากพบแห่งเดียวก็ต้องเสนอสั่งปิดชั่วคราว หากพบในหลายแห่งก็ให้เสนอปิดเป็นโซน ไปจนถึงพบมากหลายโซน ก็จะเสนอให้ปิดทั้งจังหวัดชั่วคราวอย่างน้อย 14 วันได้

 

 

พญ.อภิสมัย กล่าวต่ออีกว่า ยกตัวอย่างเช่นพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการบริหารจัดการสถานการณ์ โดยท่าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ออกคำสั่งปิดสถานบันเทิงชั่วคราวตั้งวันที่ 6-19 เม.ย. ใน 3 เขต ได้แก่ คลองเตย วัฒนา บางแค ทั้งนี้ มีการทบทวนเพิ่มความเข้มข้นในการดูแล ตรวจตราสถานบันเทิงในโซนที่เกี่ยวข้องด้วย

 

 

 

อย่างไรก็ตาม พญ.อภิสมัย กล่าวต่อไปอีกว่า ที่ประชุม ศบค.ได้หารือและเป็นห่วงสถานบันเทิงใน กทม. ซึ่งกรมควบคุมโรคและสำนักอนามัยกรุงเทพฯได้นำเสนอกราฟแสดงทิศทางการพบผู้ติดเชื้อในช่วงเวลาต่างๆ เริ่มจาก เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2563 ซึ่งพบการติดเชื้อในกลุ่มต่างๆ เช่น ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม คลัสเตอร์ปาร์ตี้วันเกิด ศูนย์กักกันบางเขน/สวนพลู แต่ส่วนที่พบการติดเชื้อสูงและเพิ่มขึ้นรวดเร็ว คือสถานบันเทิง โดยช่วงต้นเราเริ่มได้ยินการรายงานจากย่านรังสิต จ.ปทุมธานี กรณีนักศึกษา หลังจากนั้นก็เริ่มพบใน อ.บางใหญ่ จ.นนบุรี อ.ศาลายา จ.นครปฐม

 

 

“ศบค.ได้ทบทวนในลักษณะพื้นที่ โดยตัวอย่างสถานบันเทิงที่พบในย่านรังสิต จะเห็นได้ว่าบางแห่งพบการติดเชื้อ 6 ราย บางแห่ง 5 ราย 25 ราย หรือ 1 ราย แต่กระจายในลักษณะโซน คือพบในหลายแห่งที่ใกล้เคียงกัน โดยเฉพาะย่านทองหล่อ-เอกมัย พบในโซนที่กว้างขึ้น มีความเชื่อมโยงกัน เนื่องจากพฤติกรรมนักเที่ยว จะไปหลายสถานบันเทิงต่อเนื่องกันในคืนเดียว และนักร้อง นักดนตรีก็ไปแสดงหลายร้าน” พญ.อภิสมัย กล่าว

 

 

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าพื้นที่ กทม.ได้ทำการตรวจเชิงรุกในสถานบันเทิงแล้ว 6,000 กว่าราย โดยขอความร่วมมือประชาชนให้เข้าไปคัดกรองความเสี่ยงของตัวเองได้ในเว็บไซต์ http://bkkcovid19.bangkok.go.th/ และเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้หากมีความเสี่ยง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลตั้งแต่เมื่อวันที่ 22 มี.ค.-6 เม.ย. ในคลัสเตอร์สถานบันเทิง พบการติดเชื้อแล้ว 291 ราย กระจายไป 15 จังหวัด พบใน กทม. 200 ราย ชลบุรี 23 ราย สุมทรปราการ 18 ราย สุพรรณบุรี 14 ราย นนทบุรี 13 ราย นครปฐม 7 ราย ปทุมธานี 5 ราย เชียงใหม่ 2 ราย ชุมพร 2 ราย สมุทรสาคร 2 ราย เลย กาญจนบุรี ตาก ลพบุรี และสระแก้ว จังหวัดละ 1 ราย โดยที่ประชุม ศบค.ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากทีมสอบสวนโรค ว่า ยโสธร เพชรบูรณ์ เชียงราย พบผู้ติดเชื้อเชื่อมโยงกับ กทม.ด้วยเช่นกัน

 

พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ส่วน การข้ามพื้นที่จังหวัด พื้นที่มีอำนาจกำหนดมาตรการที่เหมาะสมที่สุด ดังนั้น หากจะวางแผนไปจังหวัดใด ให้ศึกษาข้อกำหนดมาตรการจังหวัดนั้นๆ บางจังหวัดมีมาตรการให้ผู้เดินทางพื้นที่เสี่ยง 5 จังหวัด กทม.และปริมณฑล กักตัว 14 วัน เป็นต้น ขอให้ฟังประกาศพื้นที่เป็นหลัก ผู้ว่าฯและ คณะกรรมการโรคตติดต่อจังหวัดจะถือว่ามีอำนาจสูงสุดในการจัดการสถานการณ์ในพื้นที่

 

 

“เทศกาลสงกรานต์หากไม่จำเป็น อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติอีกครั้ง หากเดินทางพกหน้ากากสำหรับตัวเอง หรือเผื่อ 2-3 ชิ้น สำหรับคนรอบข้าง เข้าชุมชนถ้าสวมหน้ากากทั้งคนปกติและคนติดเชื้อจะลดอัตราติดเชื้อ 90% การระมัดระวังส่วนตัว เว้นระยะห่าง ล้างมือยังจำเป็น

 

 

“หลายท่านถามเข้ามารายงานสถานการณ์ระบาดตัวเลขสูงขึ้น เกิดความลังเล ถ้าจำเป็นเดินทางก็เดินทางได้ แต่ต้องมาตรการป้องกันตัวสูงสุด เว้นระยะห่าง สวมหน้ากาก ข้ามพื้นที่ฟังมาตรการจังหวัดอย่างใกล้ชิด อสม.อาจเหนื่อยหน่อย ใครมาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ ต้องดูแล จังหวัดโดยผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อ ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดเฝ้าระวังเชิงรุก

 

 

“อย่าง กทม. ตำรวจ ศปม. เพิ่มมาตการตรวจสถานบันเทิง ร้านอาหาร สถานบริการต่างๆ อย่างเข้มงวดช่วงนี้ ขอให้ประชาชนที่อาจไปใช้บริการร้านอาหารช่วงนี้ระมัดระวังให้ความร่วมมือมาตรการในพื้นที่ หากมีปัจจัยเสี่ยงรีบไปตรวจ รพ.ใกล้บ้าน” พญ.อภิสมัย กล่าว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง