ตร.สงขลารอเอกสาร ยังไม่แจ้งข้อหา ปมหมูในห้องเย็นกว่า 2 แสนกิโลฯ บ.เอกชนยันแค่รับฝาก

ตรวจสอบเนื้อหมูในห้องเย็นกว่า 2 แสน กก. ยังไม่พบการกักตุน แม้ตรวจสอบเอกสารแล้วพบเนื้อหมูที่ยังไม่มีเอกสารตรวจสอบ 2 แสน กก.ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงปัจจุบัน รอขั้นตอนการตรวจสอบเอกสาร

กรณีที่วันนี้ (20 มกราคม) ทีมชุดเฉพาะกิจกรมปศุสัตว์ โดยด่านกักกันสัตว์สงขลาร่วมกับหลายภาคส่วน เข้าตรวจสอบบริษัทห้องเย็นแห่งหนึ่งใน ต.บ้านนา อ.จะนะ จ.สงขลา หลังจากสารวัตรกรมปศุสัตว์ได้เข้าตรวจห้องเย็นดังกล่าวเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา โดยพบว่า ในระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมามีการนำเนื้อสุกรจาก จ.พัทลุง โดย บริษัท เบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด เข้าเก็บรักษาไว้ที่ห้องเย็นดังกล่าว จำนวน 211,361 กิโลกรัม และวันที่เข้าตรวจสอบ (19 ม.ค.65) พบว่ามีเนื้อสุกรคงคลัง 201,650 กิโลกรัม กรมปศุสัตว์จึงได้ทำการอายัดไว้เพื่อรอการตรวจสอบ

วันเดียวกัน นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ร่วมหน่วยเกี่ยวข้อง ได้แก่ พาณิชย์จังหวัดสงขลา ปศุสัตว์จังหวัดสงขลา และหัวหน้าด่านกักกันสัตว์สงขลา เข้าตรวจสอบห้องเย็น โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ประกอบข้อกฎหมายอื่นด้วย โดยทางห้องเย็นไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปภายในแต่อย่างใด

ผู้ว่าฯสงขลากล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าสินค้าเนื้อสุกรดังกล่าวเป็นของบริษัทเบทาโกรฯพัทลุง ซึ่งนำมาฝากเอาไว้ที่ห้องเย็นแห่งนี้ เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐานว่ามีการกักตุนสินค้าหรือไม่อย่างไร เบื้องต้นนั้นไม่ได้เป็นเนื้อสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาแต่อย่างใด ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดแผนเพื่อเข้าตรวจสอบห้องเย็นทุกแห่งในพื้นที่ จ.สงขลา อีก 10 แห่ง ระหว่างวันที่ 21-31 มกราคม 2565 และขยายผลเพื่อลดปัญหาการกักตุนสินค้าประเภทเนื้อสุกร

นายพิสิทธิ์ ศรีวัฒนา กรรมการบริหารบริษัท ปิติซีฟูดส์ จำกัด อ.จะนะ จ.สงขลา กล่าวว่า ทางบริษัทให้บริการรับฝากสินค้าในส่วนของห้องเย็นมานาน โดยสินค้าจะต้องมีใบประทวนขนย้าย ให้บริการคิดราคาตามน้ำหนัก ต่อเวลา 1 เดือน ซึ่งเนื้อสุกรทั้งหมดได้ดำเนินการรับฝากตามการให้บริการปกติของบริษัท เท่าที่ทราบมีการทยอยนำสินค้าเข้ามาฝาก ซึ่งทางบริษัทก็ให้บริการตามปกติ ส่วนปริมาณสินค้าและระยะเวลานั้น เมื่อช่วงเวลา 1 เดือน ไม่ได้มีการนำสินค้าออกไป ก็จะมีการต่ออายุใบรับฝาก ซึ่งดำเนินการอย่างถูกต้องตามที่ดำเนินการกับสินค้าอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม หลังการตรวจสอบนานกว่า 3 ชั่วโมงนั้น นายอำพล พงษ์สุวรรณ รอง ผวจ.สงขลา รวมถึงพาณิชย์จังหวัดสงขลา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา และหัวหน้าด่านกักสัตว์สงขลา ตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมกันแถลงข่าว

นายอำพลกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์ได้เข้าไปตรวจสอบโกดังเก็นเนื้อสัตว์ พบ 2 แสนกว่ากิโลกรัม จึงได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่มาที่ไป หากพบว่ามีการกักตุนสินค้าก็จะมีความผิด และหากเอกสารไม่ตรงข้อเท็จจริงก็ต้องว่าไปตามเอกสาร ทั้งนี้ ผู้ว่าฯได้หารือร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบโกดังเก็บซากสัตว์ทั้ง 16 แห่งในสงขลา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า

นางสาวฉัตร์สุดา ชุมแสง พาณิชย์ จ.สงขลา กล่าวว่า จากการตรวจสอบห้องเย็นพบว่าการครอบครองซากสุกรในโกดัง 2 แสนกว่ากิโลกรัมไม่ตรงกันกับที่แจ้งการครอบครอง คือแจ้งนำซากสุกรเข้าโกดังแค่ 4.7 หมื่น กก.เท่านั้น

ขณะที่ พล.ต.ต.อาชาน จันทรศิริ ผบก.จ.สงขลา กล่าวว่า เบื้องต้นได้แจ้งการครอบครอง ปริมาณการครอบครองไม่ครบถ้วน ตำรวจรอเอกสารทั้ง 2 ฝ่าย คือฝ่ายบริษัทรับฝากซากสุกร และบริษัทนำฝากซากสุกรอีกครั้งหนึ่ง จึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้

เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์สงขลากล่าวว่า จากการตรวจสอบการขนย้ายซากสุกรเข้าออกสูง นำเข้า 85 ครั้ง 5 แสนกว่า กก. นำออก 21 ครั้ง ได้เข้าเช็กสต๊อกพบ 2 แสนกว่า กก. แต่ไม่ได้พบข้อมูลอาจจะมีการกักตุนซากสุกร