"ทรัมป์"กลับลำ จ่อลดกำแพงภาษีจีน พร้อมยันไม่ปลดประธานเฟด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวถึงความตึงเครียดทางการค้ากับจีน ว่าความสัมพันธ์กับรัฐบาลจีนนั้นเป็นไปด้วยดี และประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่เล่นแรงเกินไปกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน
ประธานาธิบดีทรัมป์เชื่อมั่นว่า สหรัฐกับจีนจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และทำงานร่วมกันได้ และถ้าหากจีนไม่อยากทำข้อตกลง สหรัฐก็เป็นฝ่ายที่เขียนหรือกำหนดให้เอง แล้วยังกล่าวด้วยว่า ทรัมป์จะลดภาษีให้กับอีกฝ่ายลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่เน้นย้ำว่าภาษีจะไม่ลงไปเหลือศูนย์ แต่จะไม่สูงอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้รัฐบาลทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้ากับจีนที่อัตราอย่างน้อย 145% และจีนตอบโต้กลับด้วยอัตราภาษีอย่างน้อย 125% แต่ผู้นำสหรัฐยังคงสงวนท่าที ว่าจะมีการลดภาษีพื้นฐานที่มีการเรียกเก็บจากทั่วโลกในอัตรา 10% ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2568 หรือไม่
ทั้งนี้คำพูดดังกล่าวของทรัมป์มีขึ้น หลังจากสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การเผชิญหน้าด้านภาษีที่ทวีความรุนแรงระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้น ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ในระยะยาว
แหล่งข่าวระบุกับสื่อสหรัฐฯ ว่า ในระหว่างการประชุมแบบปิดในสหรัฐฯ นั้น เบสเซนต์ยังแจ้งต่อนักลงทุนด้วยว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่กำลังดำเนินอยู่นั้น จะคลี่คลายลง แต่เขาเปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเป็นสองประเทศเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ยังไม่ได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทางการของจีน โดยกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์เตือนนานาชาติว่า หากประเทศใดมีการร่วมมือหรือทำข้อตกลงกับสหรัฐแล้วไปกระทบหรือทำลายผลประโยชน์ของจีน ก็จะถูกตอบโต้กลับอย่างเด็ดขาดและเท่าเทียม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติจีน
“ทรัมป์” ยืนยันไม่มีแผนปลด “พาวเวล” พ้นประธานเฟด
รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจถอนตัวจากคำขู่ที่จะปลดเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ออกจากตำแหน่ง หลังจากถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงมาหลายวันถึงกรณีไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในห้องทำงานรูปไข่ เมื่อวันอังคารว่า "ผมไม่มีความตั้งใจที่จะไล่เขาออก ผมอยากเห็นเขาแสดงความกระตือรือร้นมากขึ้นอีกสักหน่อยในแง่ของแนวคิดในการลดอัตราดอกเบี้ย" เขากล่าวเสริม
การผ่อนคลายความตึงเครียดนี้ได้รับการตอบรับจากลาดวอลล์สตรีททันที โดยดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สพุ่งขึ้นเกือบ 2% หลังจากกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งเมื่อเย็นวันอังคาร หุ้น พันธบัตร และดอลลาร์สหรัฐฯ ต่างร่วงลงในวันจันทร์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ออกมาโจมตีและวิจารณ์พาวเวลล์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ที่ผ่านมา ประเด็นที่เฟดไม่ยอมลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกเลยนับตั้งแต่วันที่ประธานาธิบดีทรัมป์กลับเข้ามาดำรงตำแหน่งสมัยที่ 2 ตั้งแต่ในเดือนมกราคม ซึ่งทำให้ตลาดมีกังวลว่าความเป็นอิสระของเฟดกำลังถูกคุกคาม โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (21 เมษายน 2568 ) ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง นอกเสียจากว่าพาวเวลจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ประธานาธิบดีทรัมป์ อ้างว่าเงินเฟ้อปรับตัวลดลง และเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่มีความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ โดยทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวว่า ทุกอย่างกำลังชะลอตัวลง แต่มีสิ่งเดียวที่ไม่เคยชะลอตัวลง นั่นคืออัตราดอกเบี้ย