รีเซต

อินเดียเผยผลทดลองวัคซีนโควิด-19 ในสัตว์ "สร้างภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง"

อินเดียเผยผลทดลองวัคซีนโควิด-19 ในสัตว์ "สร้างภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง"
Xinhua
13 กันยายน 2563 ( 12:39 )
100
อินเดียเผยผลทดลองวัคซีนโควิด-19 ในสัตว์ "สร้างภูมิคุ้มกันแข็งแกร่ง"

นิวเดลี, 13 ก.ย. (ซินหัว) -- ภารัต ไบโอเทค (Bharat Biotech) บริษัทผู้ผลิตวัคซีนสัญชาติอินเดีย ระบุว่าวัคซีน "โควาซิน" (COVAXIN) สำหรับป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการทดลองในสัตว์แล้ว

 

"กล่าวโดยสรุปได้ว่าวัคซีนตัวนี้สามารถกระตุ้นให้เกิดการตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่งได้ ดังนั้นจึงสามารถป้องกันการติดเชื้อและโรคในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ได้เมื่อพวกมันได้รับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในปริมาณมาก" บริษัทฯ ซึ่งตั้งอยู่ในรัฐเตลังคานา กล่าวบริษัทฯ ได้ประกาศผลทดลองวัคซีนโควาซีนในสัตว์ให้สาธารณชนได้รับรู้ผ่านทวิตเตอร์ด้วยความภาคภูมิว่า "ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกันไวรัสที่ยังมีชีวิต"บริษัทฯ ได้ดำเนินการทดลองวัคซีนในลิงแสม ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม จำนวน 4 กลุ่ม รวม 20 ตัว โดยพวกมันได้รับ "การฉีดวัคซีนโรคโควิด-19 ชนิดเชื้อตายจำนวน 2 โดส""ลิงแสมกลุ่มแรกได้รับยาหลอก ขณะที่อีก 3 กลุ่มที่เหลือได้รับวัคซีน 3 ตัวที่แตกต่างกัน ในเวลา 0 วัน และ 14 วัน โดยลิงแสมทั้งหมดต้องเผชิญกับการทดลองเป็นเวลา 14 วันหลังได้รับวัคซีนโดสที่ 2" บริษัทฯ กล่าว พร้อมเสริมว่า "ผลลัพธ์แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในการป้องกัน การเพิ่มขึ้นของอิมมูโนโกลบูลินจี (IgG) จำเพาะของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และกระตุ้นให้เกิดแอนติบอดีชนิดลบล้างฤทธิ์ ขณะเดียวกันวัคซีนยังช่วยลดการเพิ่มจำนวนของไวรัสในโพรงจมูก ลำคอ และเนื้อเยื่อปอดของลิงอีกด้วย"บริษัทฯ เผยว่าไม่พบหลักฐานของโรคปอดอักเสบจากการตรวจทางจุลพยาธิวิทยาในกลุ่มลิงที่ได้รับวัคซีน ซึ่งแตกต่างจากกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ทั้งยังไม่พบเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ในสัตว์ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั้ง 2 โดสเช่นกันโควาซินเป็นหนึ่งในวัคซีนที่เข้าร่วมแข่งขันค้นหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดยการทดลองวัคซีนดังกล่าวในมนุษย์เริ่มขึ้นเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนจะได้รับอนุมัติให้เริ่มดำเนินการทดลองในมนุษย์ระยะที่ 2 จากหน่วยงานผู้ควบคุมยา เมื่อสัปดาห์แรกของเดือนกันยายนทั้งนี้ อินเดียเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่รุนแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยยอดผู้ป่วยในประเทศพุ่งแตะที่ 4,659,984 ราย ซึ่งรวมถึงผู้เสียชีวิต 77,472 ราย ในวันเสาร์ (12 ก.ย.) หลังตรวจพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตรายใหม่ 97,570 ราย และ 1,201 ราย ตามลำดับ ในช่วง 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง