เลขาฯ ก.ล.ต. แจง! ซื้อขาย USDT ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่กระทบค่าเงินบาท

เลขาฯ ก.ล.ต. แจง! ซื้อขาย USDT ผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่กระทบค่าเงินบาท
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ธุรกรรมการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. มีสัดส่วนการซื้อขาย USDT เพียง 1.22% เมื่อเทียบกับ ยอดธุรกรรมการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX Inflow) ซึ่งมีมูลค่ารวม 29.1 ล้านล้านบาท
เลขาธิการ ก.ล.ต. ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่า ธุรกรรมการซื้อขาย USDT ยังมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับภาพรวมกระแสเงินตราต่างประเทศที่ไหลเข้าในระบบ จึง ไม่ได้มีนัยสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินบาท ตามที่มีการตั้งข้อสังเกตในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังเปิดเผยอีกว่า ในส่วนของการ แลกเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (USD) เป็นเงินบาท ที่เกิดขึ้นผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล มีสัดส่วนเพียง 0.17% เท่านั้น ยิ่งตอกย้ำว่า ปริมาณธุรกรรมในช่องทางดังกล่าวยังอยู่ในระดับจำกัด
อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. ย้ำว่าจะ ติดตามภาวะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างใกล้ชิด รวมถึงพฤติกรรมธุรกรรมการซื้อขายผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อประเมินความเสี่ยงเชิงระบบ และดูแลให้ตลาดดำเนินไปอย่างเหมาะสมต่อไป
อ้างอิง : facebook.com/sec.or.th
ข้อมูล ETF ปี 2025 ชี้ Bitcoin ยังครองเกม 70–85% ขณะ Ethereum ค่อย ๆ แย่งส่วนแบ่งเพิ่ม
ในปี 2025 “ตลาดคริปโตผ่าน ETF” ส่งสัญญาณชัดเจนว่า Bitcoin (BTC) ยังเป็นสินทรัพย์ที่สถาบันเลือกเป็น “ประตูบานแรก” ของการลงทุนคริปโต โดยข้อมูลส่วนแบ่งตลาด (market share) ของคริปโต ETF ระบุว่า BTC ครองสัดส่วนแบบทิ้งห่างอย่างต่อเนื่องที่ราว 70–85% ตลอดทั้งปี แม้จะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ทางเลือกมากขึ้นก็ตาม
รายงานระบุด้วยว่า กระแสเงินทุนรวมที่ไหลเข้า Spot Bitcoin ETF และ Spot Ethereum ETF ในปี 2025 อยู่ที่ราว $31,000 ล้าน สะท้อนดีมานด์ของสถาบันที่ยัง “มีอยู่จริง” แต่การกระจายยังเทน้ำหนักไปฝั่ง Bitcoin เป็นหลัก
ทำไมสถาบันยังให้ “Bitcoin มาก่อน”
เหตุผลหนึ่งคือพฤติกรรมของพอร์ตสถาบันที่มักมอง Bitcoin แยกออกจากคริปโตอื่น ๆ โดยปฏิบัติต่อ BTC ในฐานะ “สินทรัพย์มหภาค/ดิจิทัลคอมมอดิตี” มากกว่าจะเหมารวมเป็นหมวดเดียวกับ altcoin ทั้งตลาด ซึ่งแรงซื้อผ่าน ETF และยานพาหนะการลงทุนอื่น ๆ ช่วยพยุงราคาตลอดปี 2025 และทำให้ BTC ดูแข็งแรงกว่า “ตลาดคริปโตภาพรวม” ในหลายช่วง
วอลุ่ม Spot Bitcoin ETF เดือนธ.ค.เริ่มแผ่ว
อีกจุดที่น่าสนใจคือ ปริมาณการซื้อขาย (volume) ของ Spot Bitcoin ETF ในช่วง 3 สัปดาห์ล่าสุดของเดือนธันวาคม ลดลงชัด โดยวอลุ่มรายวัน “ส่วนใหญ่” ไม่ค่อยผ่านระดับ $5,000 ล้าน สะท้อนว่าตลาดเข้าสู่กรอบกิจกรรมที่เบาลง คล้ายช่วงซัมเมอร์ที่เงียบกว่า แทนที่จะเป็นภาพ Q4 ที่เร่งขึ้นแรงเหมือนบางปีที่ผ่านมา
Ethereum ได้ส่วนแบ่งเพิ่ม—เป็นดัชนีวัดอารมณ์ altcoin
ฝั่ง Ethereum (ETH) ครองส่วนแบ่งตลาด ETF ราว 15–30% ตลอดปี 2025 และ “ค่อย ๆ เพิ่มขึ้น” จากต้นปีมาถึงเดือนธันวาคม สะท้อนความสบายใจของสถาบันต่อสินทรัพย์อันดับสองมากขึ้น แม้ยังถูก Bitcoin ทิ้งห่างมาก
ด้วยเหตุนี้ สัดส่วน ETF ของ ETH จึงถูกมองเป็น “มาตรวัด” อารมณ์ตลาด altcoin เมื่อเทียบกับ Bitcoin ได้ในทางปฏิบัติ
ฝั่ง ETH Treasury โตแรง เพราะ “วาฬบริษัท” รายเดียว
รายงานยังชี้ว่า แม้ตลาดคริปโตช่วงท้ายปีจะผันผวน แต่การสะสม ETH ในคลังของบริษัทมหาชน (public treasuries) กลับเร่งขึ้นแรง โดยยอดถือครองรวมเพิ่มจากราว 4.5 ล้าน ETH ไปเป็นราว 5.09 ล้าน ETH ในช่วงเวลาไม่นาน
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อก้อนใหญ่ 590,000 ETH ถูกระบุว่า “มาจากรายเดียวเกือบทั้งหมด” คือ BitMine Immersion (BMNR) ที่มี Tom Lee เกี่ยวข้อง ซึ่งเดินเกมระดมทุนผ่านกลยุทธ์ At-the-Market (ATM) equity ออกหุ้นเพิ่มเพื่อซื้อ ETH ตราบใดที่ราคาหุ้นยังเทรดพรีเมียมเหนือมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV)
แล้ว XRP, SOL, LINK, LTC, DOGE อยู่ตรงไหน?
สินทรัพย์อย่าง XRP, SOL, LINK, LTC, DOGE ยังมีส่วนแบ่งตลาด ETF “น้อยมาก” ในภาพรวมปัจจุบัน โดยเหตุผลสำคัญคือหลายผลิตภัณฑ์เพิ่งได้รับการอนุมัติ “ช่วงปลายปี 2025” ทำให้ยังอยู่ช่วงเริ่มต้นของวงจรผลิตภัณฑ์ (early lifecycle)
อ้างอิง : theblock.co
ที่มา https://www.bitcoinaddict.com/news/bitcoin-etf-dominance-ethereum-gains-share-etf-volumes-soften
Bitazza Thailand ครบรอบ 6 ปี เดินหน้าขยายระบบนิเวศ เพิ่ม 8 โทเคนใหม่ ส่งท้ายปี 2025
Bitazza Thailand ฉลองครบรอบ 6 ปีของการให้บริการในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมตอกย้ำทิศทางการเติบโตระยะยาวด้วยการประกาศเพิ่มโทเคนใหม่ครั้งใหญ่ ส่งท้ายปี 2025 รวม 8 โปรเจกต์คุณภาพ ครอบคลุมทั้งบล็อกเชนเลเยอร์ 1, เลเยอร์ 2, DeFi, AI และโครงสร้างพื้นฐานของโลกคริปโตยุคใหม่
ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา Bitazza Thailand ไม่ได้วางตัวเองเป็นเพียงแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล แต่ต้องการเป็นพื้นที่สำหรับการเรียนรู้ การเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่ และการเชื่อมโยงผู้ใช้งานเข้ากับโอกาสจากตลาดคริปโตในระดับสากล โดยยึดเป้าหมายสำคัญคือ ทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลเข้าใจง่าย ใช้งานได้จริง และเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้งานในทุกช่วงของตลาด
ในปี 2025 เพียงปีเดียว Bitazza Thailand ได้เพิ่มโทเคนใหม่รวมทั้งสิ้น 28 เหรียญ และในโอกาสครบรอบ 6 ปีนี้ ได้คัดเลือกอีก 8 เหรียญเด่นเข้ามาเสริมระบบนิเวศอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มเปิดให้ซื้อขายในวันที่ 18 ธันวาคม 2025 ที่ผ่านมา
Plasma (XPL)
Plasma เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ออกแบบมาเพื่อการชำระเงินด้วย Stablecoin โดยเฉพาะ รองรับการโอน USDT ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำและความเร็วสูง พร้อมรองรับ EVM ทำให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับระบบ Ethereum ได้โดยตรง โปรเจกต์นี้ถูกจับตามองในฐานะโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินสำหรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
Mantle (MNT)
Mantle เป็นเครือข่าย Ethereum เลเยอร์ 2 ที่มุ่งเน้นการขยายขีดความสามารถของบล็อกเชนผ่านโครงสร้างพื้นฐานที่ยืดหยุ่นและมีสภาพคล่องสูง โดยมี Mantle Treasury เป็นจุดแข็งสำคัญ ช่วยสนับสนุนการพัฒนา DeFi และแอปพลิเคชันในระบบนิเวศอย่างต่อเนื่อง
Etherfi (ETHFI)
ETHFI เป็นโทเคนกำกับดูแลของ ether.fi โปรโตคอล Liquid Restaking บน Ethereum ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้นำ ETH ไปสเตกและรีสเตกผ่าน eETH เพื่อสร้างผลตอบแทนจากหลายแหล่งพร้อมกัน ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทุนในยุค Restaking Economy
Morpho (MORPHO)
Morpho คือโปรโตคอลกู้ยืมแบบ DeFi ที่ทำหน้าที่เป็นเลเยอร์กลาง เชื่อมต่อผู้ให้กู้และผู้กู้เข้ากับโอกาสที่ดีที่สุดบนเชนต่าง ๆ โดยเน้นประสิทธิภาพด้านอัตราดอกเบี้ยและการใช้เงินทุนอย่างคุ้มค่า MORPHO จึงถูกมองว่าเป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของ DeFi รุ่นใหม่
Kite (KITE)
Kite เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานของ AI Agent แบบอิสระ โดยเปิดให้ AI สามารถทำธุรกรรม ชำระเงิน และประสานงานกันบนบล็อกเชนได้โดยตรง ถือเป็นอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่สะท้อนเทรนด์การผสาน AI เข้ากับ Web3 อย่างเป็นรูปธรรม
Spark (SPK)
Spark เป็นโปรโตคอล DeFi ที่มุ่งเน้นการจัดสรรเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุมบริการด้านการออม การสร้างผลตอบแทนจาก Stablecoin และการปล่อยกู้ SPK ทำหน้าที่เป็นโทเคนกำกับดูแลของระบบ ช่วยให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางของแพลตฟอร์ม
MemeCore (M)
MemeCore เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อ Meme 2.0 ซึ่งไม่ได้มองมีมเป็นเพียงกระแสระยะสั้น แต่เป็นรากฐานของโทเคน คอมมูนิตี้ และแอปพลิเคชันที่สามารถเติบโตได้จริงในระยะยาว สะท้อนวิวัฒนาการของวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ตบนบล็อกเชน
Monad (MON)
Monad เป็นบล็อกเชนเลเยอร์ 1 ที่รองรับ EVM เต็มรูปแบบ โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพสูง ตั้งเป้ารองรับธุรกรรมมากกว่า 10,000 ครั้งต่อวินาที พร้อมค่าธรรมเนียมต่ำและระบบประมวลผลธุรกรรมขั้นสูง ทำให้ Monad ถูกยกให้เป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงสำคัญของบล็อกเชนประสิทธิภาพสูงยุคใหม่
6 ปีของ Bitazza Thailand กับก้าวต่อไปของตลาดคริปโตไทย
การเพิ่มโทเคนใหม่ในครั้งนี้ สะท้อนทิศทางของ Bitazza Thailand ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของโปรเจกต์ เทรนด์เทคโนโลยี และการใช้งานจริง มากกว่าการไล่ตามกระแสระยะสั้น พร้อมตอกย้ำบทบาทของแพลตฟอร์มไทยที่เชื่อมต่อผู้ใช้งานเข้ากับโอกาสจากตลาดคริปโตระดับโลก
หลังผ่าน 6 ปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของตลาด Bitazza Thailand ยังคงเดินหน้าพัฒนาเครื่องมือ เพิ่มสินทรัพย์ และขยายคอมมูนิตี้ เพื่อเติบโตไปพร้อมกับผู้ใช้งานในทุกวัฏจักรของคริปโต และสำหรับปีถัดไป นี่อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของบทใหม่ในระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัลของไทย
ผู้ใช้งานสามารถเตรียมซื้อขายโทเคนใหม่ทั้งหมดได้บนแอป Bitazza Thailand
ใครยังไม่มีบัญชี Bitazza Thailand สามารถสมัครได้ที่ https://bitazza.onelink.me/lhpw/jetb36ck
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจำนวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
#BitazzaThailand #Bitazza
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
