โดรนความเร็วเหนือเสียงระดับไฮเปอร์โซนิกเริ่มทดสอบต้นแบบในสหรัฐฯ
ปัจจุบันเทคโนโลยีความเร็วเหนือเสียงระดับไฮเปอร์โซนิกกำลังถูกพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน เช่น บริษัท เฮอร์มีอุส (Hermeus) ในสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัวต้นแบบโดรน Quarterhorse Mk1 หรือ Mk1 ตั้งเป้ารองรับการบินด้วยความเหนือเสียงระดับไฮเปอร์โซนิก และสามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ภายในปี 2026
บริษัท เฮอร์มีอุส (Hermeus) เป็นบริษัทสตาร์ตอัปน้องใหม่ในวงการเทคโนโลยีการบินแต่กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอากาศยานความเร็วเหนือเสียงรูปแบบใหม่ บริษัทได้ร่วมมือกับหน่วยงานนวัตกรรมกลาโหม (DIU หรือ Defense Innovation Unit) กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา โดยใช้ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดเป็นสถานที่พัฒนาและทดสอบโดรน Quarterhorse Mk1 คาดว่าเครื่องต้นแบบจะทดสอบเที่ยวบินแรกในช่วงปลายปี 2024
ก่อนหน้านี้บริษัท เฮอร์มีอุส (Hermeus) ได้ทำการพัฒนาโดรนต้นแบบ Quarterhorse Mk0 แต่ต้นแบบโดรนลำดังกล่าวไม่ได้ทดสอบบินขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยบริษัทได้นำผลการทดสอบโดรนต้นแบบ Quarterhorse Mk0 ไปใช้พัฒนาต้นแบบโดรน Quarterhorse Mk1 ที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ Chimera ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทเอง
เอเจ ปิปลิก้า (AJ Piplica) ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัท เฮอร์มีอุส ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่ากระบวนการพัฒนาต้นแบบโดรน Quarterhorse Mk1 ใช้เวลาเพียง 204 วันเท่านั้น ในขณะที่มาตรฐานการพัฒนาเครื่องบินทั่วไปอาจใช้เวลาถึง 1,400 วัน หรือประมาณ 3.5 ปี
บริษัทมีแผนการระยะยาว โดยต้องการพัฒนาอากาศยานความเร็วเหนือเสียงรูปแบบใหม่รองรับภารกิจหลากหลายรูปแบบ ภายใต้ชื่อรหัสการพัฒนาว่าดาร์คฮอร์ส (Darkhorse) โดยใช้เครื่องยนต์ Chimera ll ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ท GE J85 เพื่อทำความเร็วระดับไฮเปอร์โซนิกตอบสนองภารกิจด้านการทหาร
นอกจากนี้ยังมีแผนการพัฒนาเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงมีรหัสการพัฒนาว่าฮัลซีออน (Halcyon) ซึ่งคาดว่ามันจะนำผู้โดยสารเดินทางจากนิวยอร์กไปยังลอนดอนได้ภายในเวลาเพียง 90 นาที เร็วกว่าเครื่องบินพาณิชย์ในปัจจุบัน 5 เท่า ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร 5 แสนคน ในช่วงเวลา 1 ปี
อย่างไรก็ตาม การพัฒนาไปถึงจุดนั้นบริษัทจำเป็นต้องพัฒนาต้นแบบโดรน Quarterhorse Mk2 ให้สำเร็จตามแผนการเสียก่อน โดยคาดว่าการทดสอบจะมีขึ้นในปี 2025 ซึ่งมันจะทำความได้มากถึง 2.5 มัค หรือ 2,450 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าบริษัทจะใช้เครื่องยนต์ Chimera ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ Pratt & Whitney F100 ซึ่งจะช่วยให้ต้นแบบโดรน Quarterhorse Mk2 ทำความเร็วได้ตามเป้าหมายของบริษัท
ที่มาของข้อมูล interestingengineering